หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” โดยระบุว่า การระบาดระลอก 2 ในประเทศไทยควบคุมยากกว่าการระบาดรอบแรก ครั้งนี้แรงงานต่างชาติชาวเมียนมาที่จังหวัดสมุทรสาครเป็นต้นตอกระจายเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ให้คนไทย
การปิดสถานที่และกิจกรรมต่างๆของคนไทยได้ผลน้อยกว่าครั้งที่แล้ว เพราะต้นตอคือ แรงงานต่างชาติในจังหวัดสมุทรสาครยังแพร่เชื้อโรคต่อเนื่องให้ชาวเมียนมาด้วยกัน แล้วแพร่กระจายต่อให้คนไทย
เราเห็นตัวเลขการตรวจเชื้อเชิงรุกของแรงงานชาวเมียนมาในจังหวัดสมุทรสาครพบ 700-800 คนทุกวัน ยิ่งตรวจมาก ตัวเลขติดเชื้อในแรงงานต่างชาติก็ยิ่งพบมากขึ้น
ประเทศไทยมี 2 ทางเลือก
ทางเลือกที่ 1 ต้องตรวจเชิงรุกแรงงานชาวเมียนมาทุกคน อย่างน้อย 3 แสนคน ถ้าพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต้องกักตัวในโรงพยาบาลสนาม 10-14 วัน จำนวนเตียงขณะนี้ยังมีไม่เพียงพอ ต้องเร่งเพิ่มจำนวนเตียงของรพ.สนาม ต้องให้แรงงานชาวเมียนมาหยุดทำงาน ห้ามเดินทางออกจากที่พัก แต่ให้เงินเดือน ให้อาหาร ให้ยารักษาโรค
การตรวจเชิงรุกไม่ใช่ตรวจครั้งเดียว ต้องตรวจหลายครั้ง ค่าตรวจครั้งละ 1,600 บาท วิธีนี้ต้องใช้งบประมาณมหาศาลแน่นอน และการกักตัวไม่ให้แรงงานต่างชาติลักลอบเดินทางออกนอกพื้นที่ก็ทำได้ยาก
ทางเลือกที่ 2 เมื่อมีวัคซีนป้องกันโควิดมาถึงเมืองไทย ต้องรีบฉีดแรงงานต่างชาติจังหวัดสมุทรสาครทุกคน งบประมาณในการฉีดวัคซีนจะน้อยกว่า และน่าจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อให้คนไทยได้ดีกว่าวิธีแรก และยังแสดงให้เห็นถึงความมีมนุษยธรรมของคนไทย ไม่ทอดทิ้งพวกเขา เห็นความสำคัญของแรงงานต่างชาติที่มาช่วยแบ่งเบาภาระงาน ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย
ถึงแม้แรงงานต่างชาติทุกคนรวมทั้งคนไทยยกเว้นเด็กและหญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีน คนไทยก็ยังต้องใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างกันอีกนาน
แล้วแต่ประเทศไทยจะเลือกวิธีไหน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รวมข่าว "โควิด-19" วันที่ 4 ก.พ.64 แบบอัพเดทล่าสุด
ยอดยังพุ่ง "สมุทรสาคร"พบผู้เชื้อโควิดเพิ่มอีก 786 ราย สะสม 13,693 ราย
วัคซีนโควิด-19 “หมอยง” เผย Sputnik V ของรัสเซียประสิทธิภาพสูงถึง 91/6%
ยอดติดเชื้อโควิด 4 ก.พ.64 รายใหม่ 809 หายป่วยเพิ่ม 797 สะสมทะลุ 22,000 ราย