นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ จัดกิจกรรม “เปิดอกถกทุกประเด็น” ดึงผู้ทรงคุณวุฒิจากวงการสาธารณสุขไทย “หมอตี๋” ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ และนพ.เขตต์ ศรีประทักษ์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานอายุรศาสตร์หัวใจ สถาบันโรคทรวงอก ร่วมพูดคุยในประเด็น “วัคซีนโควิด-19 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้!?” เพื่อส่งต่อองค์ความรู้สู่คนไทยในช่วงภาวะวิกฤติ
นายปริญญ์ กล่าวว่า ‘วัคซีนโควิด-19’ เป็นประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจ เพราะเชื่อมโยงหลายมิติ ทั้งด้านสาธารณสุข สังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสสังคมได้ตั้งคำถามหลายประเด็นเกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนของภาครัฐ จึงเป็นโอกาสดีที่เวทีเปิดอกถกทุกประเด็นในครั้งนี้ ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากวงการสาธารณสุขไทย ที่เป็นผู้เกี่ยวข้องตัวจริง มาเปิดอกคุยกันอย่างตรงไปตรงมา ถึงความจริงของวัคซีนที่ประชาชนอาจไม่เคยรู้มาก่อน จากตัวแทนผู้กำหนดนโยบายจากภาครัฐ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีส่วนร่วมและติดตามประเด็นอย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการระบาดในประเทศไทย เพื่อตอบข้อซักถามทุกประเด็นที่หลายคนคาใจ ซึ่งตรงตามจุดประสงค์ของการจัดงาน ที่ต้องการเป็นพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่นำเสนอประเด็นสังคมที่น่าสนใจ ตลอดจนมาร่วมพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างเต็มที่
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ กล่าวถึงประเด็นการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ว่า ไม่มีสูตรสำเร็จใดที่ถูกต้องทั้งหมด การจัดซื้อวัคซีนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบริษัทที่ผลิตวัคซีนได้ในปัจจุบันมีไม่กี่แห่งในโลก และในช่วงต้นล้วนอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่อยู่ระหว่างการค้นคว้าวิจัย ถือเป็นความยากของรัฐบาลในการที่จะใช้จ่ายงบประมาณที่มีอย่างจำกัดเพื่อนำไปมัดจำเพื่อทำการจอง ซึ่งไม่ว่าผลวิจัยจะสำเร็จหรือไม่ เงินมัดจำที่จ่ายไว้ก็จะไม่ได้คืน
ดังนั้น หากนำเงินจำนวนมากไปจองวัคซีนกับบริษัทใหญ่ จะทำให้มีปัญหาทั้งด้านข้อกฎหมายและกระทบกับงบประมาณ สุดท้ายเลยเลือกแอสตร้าเซนเนก้า ที่ไทยจะร่วมทำวิจัยกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และจะมีวัคซีนซิโนแวค จากประเทศจีน ที่จะทยอยเข้าประเทศไทยปลายเดือนนี้ด้วย โดยอยากให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างโปร่งใสและรอบคอบที่สุดแล้วโดยคำนึงถึงคนส่วนใหญ่ มีคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องวัคซีนที่ประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เพราะการบริหารจัดการเรื่องวัคซีน ไม่ได้มีเพียงประเด็นเรื่องการสั่งซื้อเท่านั้น ยังมีเรื่องของการกำหนดหลักเกณฑ์ในการฉีด การเฝ้าระวังภายหลังการฉีด ศักยภาพและความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์ในการฉีดเพื่อให้ครอบคลุมและเพียงพอต่อความต้องการโดยเร็ว รวมถึงการจัดเก็บและการขนส่งเพื่อรักษาประสิทธิภาพของวัคซีนให้มีความคงที่มากที่สุด
“ปัญหาเรื่องวัคซีนในปัจจุบันเป็นเรื่องของดีมานด์ ที่ยังมีไม่พอในช่วงแรก แม้รัฐบาลได้พยายามบริหารจัดการมาตั้งแต่ในช่วงต้นที่มีการะบาด ต่อข้อซักถามที่ว่าทำไมภาครัฐไม่เปิดโอกาสให้เอกชนนำเข้าวัคซีนชนิดอื่นนั้น จริง ๆ แล้วรัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นใคร แต่วันนี้กำลังทำให้ระบบมีความพร้อมอยู่ เพราะการฉีดวัคซีนในช่วงต้น ยังต้องมีการติดตามและประเมินผลอย่างใกล้ชิด จึงจำเป็นต้องให้เอกชนที่สนใจนำเข้ามาอยู่ภายใต้ระบบของ สธ.ก่อน เพื่อใช้ฐานข้อมูลเดียวกัน”
ในขณะที่ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เสนอแนะว่า ในหลายประเทศมีหลักการให้วัคซีนที่ต่างกัน บางประเทศเลือกฉีดให้กับผู้มีความเสี่ยงสูงก่อน แต่บางประเทศก็เลือกฉีดให้บุคลากรที่มีผลต่อเศรษฐกิจก่อน ซึ่งสำหรับประเทศไทย ในมุมมองของตนเองหากต้องการสร้างความสมดุลระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจให้ได้ผล ควรฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้ที่แข็งแรงก่อน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด เพราะจากสถิติที่ผ่านมา ผู้ที่แพร่เชื้อโดยไม่ตั้งใจส่วนใหญ่เป็นผู้มีร่างกายแข็งแรง ไม่ใช่บุคคลกลุ่มเสี่ยง
ด้าน นพ.เขตต์ ศรีประทักษ์ ในฐานะบุคลากรด่านหน้าที่สู้กับโควิด-19 มากว่าหนึ่งปีเต็ม ได้กล่าวในตอนท้ายว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 จะมาช่วยประเทศได้ในหลายมิติ ดั้งนั้นการจะซื้อวัคซีนอะไร อยากให้รัฐบาลมองไปยังอนาคตข้างหน้าด้วย ควรมีวัคซีนที่สามารถใช้ในกรณีที่เกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสหรือสู้กับอาการดื้อยาได้ เพื่อลดปัญหาการสิ้นเปลืองงบประมาณที่ต้องซื้อวัคซีนอยู่เรื่อย ๆ เพราะในอนาคตจะมีเชื้อไวรัสโคโรนาตัวใหม่ ที่อาจตรวจไม่เจอเพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญประเทศไทยมีศักยภาพมากพอในการที่จะผลิตวัคซีนเองได้ จึงควรพิจารณาประเด็นนี้ร่วมด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และเสนอประเด็นต่าง ๆ ได้ทางไลน์ไอดี @prinnp และมาเจอกันได้ทุกวันอังคาร เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป ณ ร้านกาแฟ Blue cloud พรรคประชาธิปัตย์ หรือติดตามชมถ่ายทอดสดได้ทางเฟซบุ๊คแฟนเพจ ปริญญ์ พานิชภักดิ์ - Prinn Panitchpakdi