"แมร์เคิล"ขอโทษคนเยอรมัน ยอมรับควบคุมโควิดช่วงวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์เป็นไปได้ยาก

25 มี.ค. 2564 | 04:45 น.
อัปเดตล่าสุด :25 มี.ค. 2564 | 11:50 น.

นายกฯเยอรมันขอโทษประชาชน ยอมรับตัดสินใจผิดพลาด ต้องขอยกเลิกแผนล็อกดาวน์ช่วงอีสเตอร์สัปดาห์หน้า ทั้งที่เพิ่งประกาศใช้ได้เพียงวันเดียว

นางอันเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีประกาศวานนี้ (24 มี.ค.) ว่า เยอรมนี ขอยกเลิก มาตรการล็อกดาวน์ ในช่วง เทศกาลอีสเตอร์ ที่กำลังจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า หลังจากที่เพิ่งประกาศใช้มาตรการดังกล่าวไปเมื่อวันอังคาร (23 มี.ค.) นี้เอง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อวันอังคาร (23 มี.ค.) รัฐบาลเยอรมนี ประกาศ ขยายเวลาการใช้มาตรการล็อกดาวน์ ออกไปอีก 1 เดือน และประกาศใช้มาตรการใหม่ๆอีกหลายด้าน ซึ่งรวมถึงการห้ามทำกิจกรรมในที่สาธารณะในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ โดยมีเป้าหมายที่จะลดอัตราการติดเชื้อโรคโควิด-19 ภายในประเทศ

ภายใต้มาตรการดังกล่าว ประชาชนจะไม่สามารถออกไปทำกิจกรรมต่างๆในที่สาธารณะในระหว่างวันที่ 1-3 เม.ย. โดยรัฐบาลจะกำหนดให้ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นวันหยุดราชการ ขณะที่ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดทำการในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย และประชาชนจะถูกสั่งห้ามรวมตัวกันในระหว่างวันที่ 1-5 เม.ย. เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน

อย่างไรก็ดี นางแมร์เคิลเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ความคิดที่จะใช้มาตรการล็อกดาวน์ดังกล่าวถือเป็น "ความผิดพลาด"

นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเปิดเผยว่า การสั่งล็อกดาวน์ 5 วันในช่วงเทศกาลอีสเตอร์นั้นเป็นเรื่องที่ “ดำเนินการได้ยาก” เพราะมีหลายเรื่องที่จัดการไม่ได้ภายในเวลาที่สั้นเช่นนี้ ไม่ว่าจะในเรื่องการจ่ายค่าจ้าง ไปจนถึงสถานการณ์ของร้านค้า และบริษัทต่างๆ

นอกจากนี้ ยังเปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจที่การประกาศมาตรการล็อกดาวน์เมื่อวันอังคารทำให้เกิดความไม่มั่นใจเพิ่มขึ้น พร้อมกล่าวขอโทษชาวเยอรมันทุกคน โดยเธอกล่าวว่า "ดิฉันเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะเอาชนะไวรัสนี้ไปด้วยกัน" และ "หนทางช่างยากลำบากและมีอุปสรรคมากมาย  มีความสำเร็จเกิดขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อผิดพลาดและการถอยหลังเกิดขึ้นด้วย"

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ก่อนที่นางแมร์เคิลจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ เธอได้เชิญมุขมนตรีรัฐต่างๆ ของเยอรมนีให้ร่วมการประชุมออนไลน์ และในวันที่ 12 เม.ย. นายกรัฐมนตรีและมุขมนตรีจะมาประชุมกันอีกครั้งเพื่อพิจารณาว่าเยอรมนีควรจะดำเนินการอย่างไรต่อไปเกี่ยวกับการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขั้นต่อไป