องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้ประชาชนทั่วโลกปฏิบัติตามโครงการฉีด วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของรัฐบาลเท่านั้น เนื่องจากขณะนี้มีความกังวลเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมเพื่อแสวงหาประโยชน์จากความต้องการวัคซีนโควิดที่พุ่งขึ้นทั่วโลก ซึ่งอาจทำให้มีการแพร่ระบาดของ วัคซีนปลอม
นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO ระบุเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (26 มี.ค.) ว่า WHO ได้รับแจ้งว่ากระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานควบคุมด้านกฎระเบียบ และองค์กรจัดซื้อของรัฐบาลทั่วโลก ได้รับข้อเสนอที่ต้องสงสัยในการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
“WHO ตระหนักว่า มีวัคซีนที่ถูกทิ้งและถูกนำกลับมาใช้ใหม่ในห่วงโซ่อุปทาน โดยไม่มีการรับประกันว่าจะมีการเก็บรักษาไว้ในห่วงโซ่ที่มีความเย็น” นายทีโดรสกล่าวและว่า วัคซีนปลอมได้ถูกเสนอขายทางอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะในเว็บมืด นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ากลุ่มอาชญากรนำขวดวัคซีนเปล่ากลับมาใช้ซ้ำ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานเกี่ยวกับการปลอมแปลงวัคซีนโควิด BNT162b2 ซึ่งตรวจพบที่ประเทศเม็กซิโกในเดือนก.พ. โดยวัคซีนปลอมดังกล่าวได้ถูกแจกจ่ายและฉีดให้กับผู้ป่วยนอกโครงการฉีดวัคซีนที่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ เชื่อว่าวัคซีนปลอมดังกล่าว อาจจะยังคงหมุนเวียนอยู่ในภูมิภาค และยังคงถูกเสนอฉีดให้กับบรรดาผู้ป่วยนอกโครงการฉีดวัคซีนของรัฐบาล
นายทีโดรสจึงได้เรียกร้องประชาชนไม่ให้ซื้อวัคซีนนอกเหนือไปจากโครงการของรัฐบาล และให้รายงานการขายวัคซีนที่ต้องสงสัยกับทางรัฐบาลซึ่งก็จะทำหน้าที่รายงานให้ WHO ทราบต่อไป
จากการที่ความต้องการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 เพิ่มขึ้นทั่วโลกนั้น ทำให้รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณายกเลิกปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อสนับสนุนให้มีการผลิตวัคซีนโควิดในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกได้มากขึ้น
เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาที่จะยกเลิกการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นการอนุญาตให้ทุกประเทศทั่วโลกสามารถผลิตวัคซีนชนิดเดียวกันกับของสหรัฐได้
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เป็นผู้หนึ่งที่ให้การสนับสนุนเรื่องดังกล่าว ด้วยการส่งจดหมายเรียกร้องให้ทำเนียบขาวดำเนินการพิจารณา ขณะเดียวกันประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากทั่วโลกก็ได้ยื่นคำร้องให้องค์การการค้าโลก (WTO) จัดหาทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
ทั้งนี้ วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ได้รับการอนุมัติในสหรัฐแล้วนั้นได้แก่ วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์/บิออนเทค, วัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา และวัคซีนของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
รายงานข่าวข้างต้นมีขึ้นท่ามกลางความวิตกที่มากขึ้นว่า สหรัฐอเมริกาและประเทศร่ำรวยอื่นๆ จะเป็นผู้ครอบครองวัคซีน และมีบทบาทในการจัดสรรวัคซีนทั่วโลกในปริมาณที่ไม่เหมาะสม ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาและประเทศยากจน ต้องเผชิญความยากลำบากในการจัดหาวัคซีนเพื่อฉีดให้กับประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"วัคซีนโควิดปลอม" ระบาดไวยิ่งกว่าไวรัส คำเตือนจาก "ตำรวจสากล"