รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า คลื่นระลอกถัดไปนั้นยังไม่ใช่แบบที่เห็นอยู่ตอนนี้ครับ
ตอนนี้เปรียบเหมือนแค่เศษลาวาที่เผอิญกระเด็นออกจากปากปล่องภูเขาไฟที่กำลังคุกรุ่นมาให้เห็นเท่านั้น
หากยอมรับความจริง ระลอกสองตั้งแต่ปลายปีจนถึงกลางมีนาคมนั้น ใช้มาตรการเทเลทับบี้ และต่อด้วยเทศกาลปิดประตูตีแมวเพราะจนแต้มต่อแมวนั้น ไม่สามารถตัดวงจรการระบาดได้ ทำให้เปลี่ยนภูมิศาสตร์การระบาดของประเทศไปอย่างสิ้นเชิง ผลลัพธ์ที่เจอคือ การมีติดเชื้อรายวันอย่างต่อเนื่องระยะยาว มีการติดเชื้อกระจายไปในคนในสังคมทั่วไป ยากที่จะหาต้นตอที่แท้จริง
หลายพื้นที่มีแนวโน้มเป็นดงโรคระยะยาว ซึ่งหมายถึงมีโอกาสสูงที่คนเดินทางไปแล้วจะมีโอกาสติดเชื้อได้ การปะทุและการปรากฏข่าวความเสี่ยงในการติดเชื้อแพร่เชื้อ ตามตลาดหลากหลายจังหวัด สถานบันเทิง สถานศึกษา โรงพยาบาล บริษัทต่างๆ ตลอดจนที่อื่นๆ ที่เราใช้ชีวิตประจำวัน เช่น งานศพ งานแสดง การประชุม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารแออัด ฯลฯ ล้วนบ่งถึงสถานการณ์ที่มีการกระจายไปทั่วแล้ว และยากที่จะควบคุมได้ด้วยนโยบายและมาตรการเดิม
หลายประเทศทั่วโลกมีบทเรียนให้เราเห็นชัดเจนว่า มาตรการที่ไม่เคร่งครัดจะไม่มีทางควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ และต้องแลกด้วยความเสียหายหนักหน่วงจากการระบาดซ้ำ เช่น กลุ่มประเทศยุโรป และสแกนดิเนเวีย
ยิ่งหากหลงระเริงไปกับภาพลวง วาทกรรมสวยหรู...ระลอกสองไม่มี มีแต่ระลอกใหม่...ระลอกสองของระลอกใหม่ ไม่มีระลอกสาม...โรคกระจอก...เอาอยู่...คุมได้...คนเงินของ ยาและวัคซีนเพียงพอ...จึงเปิดประตูความเสี่ยงทุกบานทั้งเที่ยวในประเทศ รับต่างชาติ ลดวันกักตัว โอกาสที่จะพบกับหายนะก็จะมีสูง
เพราะสภาพจริงนั้น ระบบตรวจก็มีศักยภาพทำได้โคตรจำกัดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นหลายต่อหลายประเทศ คนเงินของมีจำกัด วัคซีนก็มีปริมาณจำกัด สรรพคุณจำกัด และฉีดได้ไม่ครอบคลุม
บวกลบคูณหารจึงเหมือนรอเวลาที่ภูเขาไฟจะระเบิดมวลลาวามหาศาลออกมา
สิ่งที่ควรทำเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าคือ บอกกล่าวเล่าแจ้งความจริงแก่ทุกคนในสังคม เร่งหาอาวุธวัคซีนสรรพคุณสูงเข้ามาในประเทศ ขยายขีดความสามารถของระบบการตรวจคัดกรองโรคให้ทุกคนทุกที่สามารถเข้าถึงบริการได้
ผลที่เราเห็นนั้นมาจากนโยบายและมาตรการที่ถูกชงมาจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น ไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะจัดการสถานการณ์ระบาดได้
ตอนนี้ขอเน้นย้ำให้เราทุกคนทราบว่า การระบาดกระจายตัวมาก สถานการณ์ไม่ปลอดภัย ควรงดการตะลอนท่องเที่ยว งดการนัดพบปะสังสรรค์ ไม่ว่าจะฉลองอะไรก็ตาม รวมถึงการจัดประชุม โชว์โน่นนี่นั่น ล้วนเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่เชื้อได้
แม้คนได้วัคซีนที่ใช้ในประเทศไป ก็ไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อ ยังติดได้และนำไปแพร่คนอื่นได้...เรื่องนี้สำคัญมาก หากไม่รู้ ไม่เข้าใจ ก็จะตกหลุมพรางคิดว่ากรูฉีดแล้ว พื้นที่กรูปลอดเชื้อแน่นอน เปิดรับความเสี่ยงได้ เมื่อนั้นก็จะเจอหายนะในเวลาอีกไม่นาน
การป้องกันตัวเองและครอบครัว เป็นอาวุธสุดท้ายที่ทุกคนทำได้ในขณะนี้ครับ ตราบใดที่ยังไม่รื้อวงนโยบายสุขภาพ ท่องเที่ยว และเดินทาง
ด้วยรักและปรารถนาดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :