นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การเดินทางกลับหลังเทศกาลสงกรานต์ นอกจากต้องระมัดระวังในเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนและการกินอาหารที่สะอาดปลอดภัยแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษเพื่อสุขอนามัยที่ดีในการเดินทางคือการใช้บริการห้องส้วมตามสถานที่ต่าง ๆ อาทิ สถานีขนส่ง ปั๊มน้ำมัน และร้านอาหาร เป็นต้น ซึ่งต้องขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการในสถานที่ต่างๆ ร่วมกัน
“ล้างส้วมสาธารณะ” ให้สะอาดเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับหลังเทศกาลสงกรานต์ โดยเน้นการ ทำความสะอาดแหล่งปนเปื้อนเชื้อโรคที่ต้องสัมผัสร่วมกันบ่อย ๆ ได้แก่ พื้นห้องส้วม ซึ่งตรวจพบเชื้อโรคมากที่สุด ร้อยละ 41.1 บริเวณที่รองนั่งโถส้วม พบร้อยละ 24.4 ที่จับสายฉีดชำระ พบร้อยละ 18.8 และยังตรวจพบบริเวณ ราวจับ ที่กดโถส้วม และก๊อกน้ำอ่างล้างมือ ร้อยละ 6.4 , 3.4 และ 2.9 ตามลำดับ เพื่อเป็นการสร้างสุขอนามัยที่ดีและลดความเสี่ยงโรคโควิด-19
พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการใช้ส้วมให้กับนักท่องเที่ยว โดยปิดฝาโถส้วมก่อนกดชักโครก เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อโรค รักษาระยะห่างขณะรอใช้ส้วม 1-2 เมตร เพื่อลดการเสี่ยง ติดเชื้อโควิด-19 ไม่เหยียบบนโถส้วมแบบนั่งราบ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และรักษาความสะอาด ควรเช็ด ทำความสะอาดก่อนนั่ง ไม่ทิ้งวัสดุอื่นใด นอกจากกระดาษชำระลงในโถส้วม เพราะวัสดุอาจไปอุดตันท่อ และล้างมือด้วยสบู่และน้ำทุกครั้งหลังการใช้ส้วม
“ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมอนามัยได้สนับสนุนให้สถานประกอบการทุกแห่งให้ความสำคัญต่อการพัฒนา ส้วมสาธารณะให้ได้มาตรฐานส้วมสาธารณะระดับประเทศ (HAS) คือ สะอาด (Health) เพียงพอ (Accessibility) และปลอดภัย (Safety) รวมทั้งการจัดการขยะ ควรจัดเตรียมถังขยะพร้อมฝาปิดให้มิดชิดไว้บริการ เพื่อสุขลักษณะและป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์และแมลงพาหะนำโรค” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว