ติดเชื้อโควิด-19 พุ่ง หมอธีระแนะจำกัดการเคลื่อนไหว-ตรวจให้มาก-กักตัวเร็วคุมการระบาด

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า สถานการณ์ทั่วโลก 16 เมษายน 2564

จำนวนติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พรุ่งนี้จะทะลุ 140 ล้านคน ยอดตายรวมจะเกิน 3 ล้านคน ในขณะที่อินเดียวันเดียวเกินสองแสนคน ตุรกีเกินหกหมื่นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 832,967 คน รวมแล้วตอนนี้ 139,640,591 คน ตายเพิ่มอีก 13,686 คน ยอดตายรวม 2,998,312 คน

อเมริกา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 71,290 คน รวม 32,220,950 คน ตายเพิ่ม 875 คน ยอดเสียชีวิตรวม 578,973 คน อัตราตาย 1.8%

อินเดีย ติดเพิ่มมากถึง 216,850 คน รวม 14,287,740 คน ตายเพิ่ม 1,183 คน ยอดเสียชีวิตรวม 174,335 คน อัตราตาย 1.2%

บราซิล ติดเพิ่ม 80,529 คน รวม 13,758,093 คน ตายเพิ่มถึง 3,774 คน จำนวนเสียชีวิตต่อวันมากที่สุดในโลก ยอดเสียชีวิตรวม 365,954 คน อัตราตาย 2.7%

ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 38,045 คน ยอดรวม 5,187,879 คน ตายเพิ่ม 296 คน ยอดเสียชีวิตรวม 100,073 คน อัตราตาย 1.9%

รัสเซีย ติดเพิ่ม 8,944 คน รวม 4,675,153 คน ตายเพิ่ม 398 คน ยอดเสียชีวิตรวม 104,398 คน อัตราตาย 2.2%

อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่นต่อวัน

              แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น

              ญี่ปุ่นติดเชื้อรายวันเพิ่มเฉียดสี่พันคน แนวโน้มระลอกสี่มีความเร็วพอๆ กับระลอกสาม

              แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่หลักร้อยถึงพันกว่า

              แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง

              เกาหลีใต้ และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน เวียดนาม ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

              ภาพรวมการระบาดของโลกรุนแรงขึ้นมาก ภายในสัปดาห์เดียวติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 ล้านคนทั่วโลก เฉลี่ยแล้วติดเพิ่มวันละ 770,151 คน หากเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าจะพบว่าเพิ่มเร็วขึ้นประมาณ 18% ในขณะเดียวกัน จำนวนการตายเฉลี่ยต่อวันเกินหมื่นคน พบว่าสูงขึ้นกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าราว 16%

              สำหรับสถานการณ์ไทยเรา ติดเชื้อใหม่ครบทุกจังหวัด ระบาดกระจายเร็ว ไปทั่วแทบทุกกลุ่มประชากร ดูจากผลการตรวจของบางจังหวัดจะพบว่าเคสใหม่ๆ มีจำนวนไม่น้อยที่มีค่า cycle threshold ต่ำ ซึ่งแปลว่ามีแนวโน้มที่จะมีปริมาณไวรัสสูง จึงมีโอกาสที่จะแพร่เชื้อได้ง่ายมากขึ้น การติดเชื้อจากการใช้ชีวิตประจำวัน ในที่ทำงาน ประชุม และติดเชื้อกันในบ้าน มีมากขึ้นชัดเจนดังที่เคยเตือนไว้

              มาตรการที่ควรมี เพื่อควบคุมการระบาดที่กระจายรุนแรงในลักษณะนี้ หากมองจากประสบการณ์ทั่วโลก การจำกัดการเคลื่อนไหวของประชากรนั้นจำเป็นต้องทำอย่างเข้มข้นเพียงพอ มิฉะนั้นจะไม่ได้ผล นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องมีมาตรการอื่นควบคู่ไปด้วยคือ การตรวจให้มาก แยกกักตัวให้เร็ว นำสู่ระบบการดูแลรักษาให้ทันและเพียงพอ

              ทั้งนี้ควรขยายวงการตรวจให้ครอบคลุมในทีเดียวคือ ตรวจทั้งผู้ติดเชื้อรายแรก กลุ่มคนเสี่ยงสูงที่สัมผัส และกลุ่มคนที่สัมผัสผู้เสี่ยงสูงอีกทีหนึ่งหรือที่เรียกว่าผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ แต่เดิมมักประเมินโอกาสติดเชื้อของกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำไว้น้อย แต่สถานการณ์ที่มีการระบาดกระจายไปทั่ว ควรพิจารณาตรวจคนกลุ่มเสี่ยงต่ำนี้ไปเลยโดยอัตโนมัติ มิใช่ด้วยเหตุผลเพราะเค้าสัมผัสกับกลุ่มเสี่ยงสูง แต่ด้วยเหตุผลของลักษณะเครือข่ายสังคม และแบบแผนการดำเนินชีวิตที่มีโอกาสคล้ายกันของทั้งสามวง

              การทำเช่นนี้จะช่วย capture ได้เร็วขึ้นและเป็นทั้งการป้องกันแบบปฐมภูมิและทุติยภูมิโดยอัตโนมัติ ซึ่งเหมาะสมกับช่วงระบาดรุนแรง แต่จะทำเช่นนี้ได้ ต้องมีการระดมทรัพยากร และเตรียมระบบให้มีศักยภาพอย่างเพียงพอ ทั้งเรื่องการประชาสัมพันธ์ การตรวจ การรายงานผล การประสานนำส่งสู่ระบบการดูแลรักษา และการติดตามผล

              สำหรับประชาชน  หากคนในครอบครัวยังต้องไปทำงานนอกบ้าน ขอให้คนไปทำงานป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากากปิดปากปิดจมูกเสมอ หากเจอคนเยอะหรือแออัด ควรใส่หน้ากากสองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า เพื่อช่วยให้ฟิตกับใบหน้ามากขึ้น ทั้งนี้ควรใส่หน้ากากในที่ทำงานด้วยหากเป็นไปได้ ระวังเรื่องการเดินทางขนส่งสาธารณะ การจับสิ่งของสาธารณะ และสุขาสาธารณะ ต้องล้างมือเสมอ พกเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัว

              พบปะคนอื่นควรอยู่ห่างจากเค้ามากๆ หากพบว่าคนที่จะสนทนาด้วยไม่ใส่หน้ากาก ก็ไม่ควรสนทนาด้วย และแนะนำการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมให้แก่เค้า อาหารการกินและเครื่องดื่มต่างๆ ควรเลี่ยงการกินดื่มในร้านหรือโรงอาหาร จะปลอดภัยกว่าหากซื้อกลับไปแยกกินเองคนเดียว

              ถัดจากนี้ไป หากระบาดมีการลุกลามขยายตัวขึ้น ขอให้ใช้สติ และความเมตตากรุณาให้มากๆ เพราะจะมีคนตกทุกข์ได้ยากจำนวนมากที่ต้องการความช่วยเหลือ หากเราพอมีกำลัง ขอให้แบ่งปันและช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนในพื้นที่ของเรา ให้เค้าพอจะสามารถดำรงชีพอยู่ได้ ทั้งคนติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ ในเรื่องอาหาร น้ำ ที่พักพิง เครื่องนุ่งห่ม หรือแม้แต่งานเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้พอมีรายได้

              บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนในโรงพยาบาลต่างๆ อาจต้องวางแผนพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัว ให้ต่างฝ่ายต่างระวังตัวอย่างเคร่งครัด เพราะหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสัมผัสความเสี่ยงขึ้นมา จะเกิดผลกระทบกันเป็นโดมิโน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดแคลนกำลังคน และอาจลามไปถึงการต้องปิดบริการของโรงพยาบาล

ศึกนี้หนักมาก ไม่เหมือนอดีต และจำเป็นต้องร่วมแรงร่วมใจกันทุกคน

ประเทศไทยต้องทำได้

ด้วยรักและห่วงใยต่อทุกคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• สงสัยติดเชื้อโควิด-19 อาการน้อย หมอธีระวัฒน์แนะแยกตัวอยู่บ้านน่าจะดีที่สุด
• ธอส. พบพนักงานติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 6 ราย
• ติดเชื้อโควิด-19 หมอธีระแนะเปิดหู เปิดตา เปิดสมองแก้ปัญหาโรคระบาด
• วัคซีนโควิด-19 ยังไม่ใช่ในอุดมคติ หมอยงชี้แต่ละยี่ห้อยังต้องพัฒนา
• ไทยพาณิชย์ แจ้งปิดให้บริการสาขาในห้างเป็น17.00 น.มีผล16 เม.ย.64 เลี่ยงโควิด