วันที่ 16 เม.ย.ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่จึงมีมติขอปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร เป็น 2 พื้นที่ คือ พื้นที่สีแดง(พื้นที่ควบคุมสูงสุด) และ พื้นที่สีส้ม(พื้นที่ควบคุม)
โดยในส่วนของ พื้นที่ควบคุม(สีส้ม) มีทั้งหมด 59 จังหวัด ประกอบด้วย
พระนครศรีอยุธยา อุบลราชธานี สระบุรีสุราษฎร์ธานี นครสวรรค์ ชุมพร พิษณุโลก นครศรีธรรมราช นราธิวาส ราชบุรี ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี กาญจนบุรี
จันทบุรี เชียงราย ปราจีนบุรี บุรีรัมย์ ลพบุรี มหาสารคาม ตราด ชัยภูมิ อ่างทอง สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุทัยธานีนครนายก สมุทรสงคราม ศรีสะเกษ แม่ฮ่องสอน ยะลา ชัยนาท สิงห์บุรี ลำพูน เพชรบูรณ์ กระบี่ ลำปาง กำแพงเพชรสุโขทัย พะเยา
หนองคาย เลย พิจิตร ระนองร้อยเอ็ด สกลนคร พังงา ยโสธร ปัดตานี แพร่ ตรัง อุตรดิตถ์ น่าน อำนาจเจริญ นครพนม บึงกาฬ พัทลุง กาฬสินธุ์ สตูล และมุกดาหาร
มาตรการสำหรับพื้นที่ควบคุม(พื้นที่สีส้ม)นั้น มีดังนี้
ขณะที่ พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) มีทั้งหมด 18 จังหวัด ประกอบด้วย
โดยมาตรการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด มีดังนี้
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า มาตรการต่างๆที่ออกมาทั้งหมด ศปก.ศบค.จะพิจารณาและประเมินสถานการณ์ภาพใหญ่ของประเทศประมาณ 2 สัปดาห์ ยืนยันไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว สองสัปดาห์นี้จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกันหากผ่านพ้นวิกฤตจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง เราก็อาจจะผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว แต่หาก 2 สัปดาห์นี้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นผู้ว่าฯกทม.หรือผู้ว่าราชการจังหวัดอาจจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายสั่งปิด จำกัด หรือห้ามการดำเนินการของพื้นที่ สถานที่ หรือสั่งให้งดการทำกิจกรรมซึ่งมีความเสี่ยงกับการแพร่ระบาดของโรคในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพิ่มเติมจากที่กำหนดได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :