อัพเดทคดี 'ไม่ใส่หน้ากากอนามัย'ศาลสั่งปรับแล้ว 8 คดี ต่ำสุด 1,000 บาท

28 เม.ย. 2564 | 06:15 น.

โฆษกศาล เผยภาพรวมคดี "ไม่สวมหน้ากากอนามัย" ศาลสั่งปรับทั่วประเทศแล้ว 8 คดี  ปรับเงินไม่เท่ากันขึ้นกับดุลพินิจ ต่ำสุดโดน 1,000 บาท 

 

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564 นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ได้กล่าวถึงภาพรวมของการพิจารณาคดีของศาลยุติธรรมทั่วประเทศกรณีไม่สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกเคหสถานหรือสถานที่พำนัก อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศของจังหวัดต่าง ๆ ว่าสำหรับศาลยุติธรรม ได้เริ่มรวบรวมสถิติคดีลักษณะดังกล่าวแล้ว  นอกจากที่มีการฟ้องคดีและมีคำพิพากษาไปแล้วคือที่ศาลแขวงสุราษฎร์ธานี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวน 1 คดี จำเลย 1 คน

ล่าสุดตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน  มีรายงานคดีเข้ามาอีกในศาลเขตพื้นที่ต่าง ๆ  รวม 4 ศาล จำนวน 8 คดีด้วยกัน

- โดยศาลจังหวัดเวียงสระ จ.สุราษฎร์ รายงานว่าเมื่อวันที่ 26 เมษายน มียื่นฟ้องเข้ามา 1 คดี จำเลย 2 คน ศาลลงโทษปรับคนละ 2,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 1,000 บาท

- วันที่ 27 เมษายน มีรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดเวียงสระ มีฟ้องเข้ามาอีก 1 คดี จำเลย 1 คน ศาลลงโทษปรับ 1,000 บาท 

- วันเดียวกันที่ศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ยื่นฟ้อง 2 คดี จำเลยคดีละ 1 คน  ศาลลงโทษปรับจำเลยคนละ 4,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับจำเลยคนละ 2,000 บาท

ศาลจังหวัดยะลาฟ้อง 2 คดี จำเลยคดีละ 1 คน  ศาลลงโทษปรับจำเลยคนละ 4,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กี่งหนึ่งคงปรับจำเลยคนละ 2,000 บาท

- ศาลจังหวัดเบตง จ.ยะลา ฟ้อง 2 คดี จำเลยคดีละ 1 คน  ศาลลงโทษปรับจำเลยคนละ 2,000 บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับคนละ 1,000 บาท

โฆษกศาลยุติธรรมกล่าวอีกว่า สำหรับการลงโทษปรับจำเลยที่มีความแตกต่างกันนั้น เนื่องจากผู้พิพากษาสามารถใช้ดุลพินิจพิจารณาพิพากษาตามพฤติการณ์แห่งคดีของแต่ละคดีได้ ซึ่งอาจมีรายละเอียดและความหนักเบาแห่งการกระทำความผิดที่แตกต่างกัน ดังนั้นการพิพากษาลงโทษจึงเป็นไปได้ที่จะไม่เท่ากัน

อย่างไรก็ตามขอย้ำกับประชาชนทั่วประเทศว่าขอให้ติดตามข่าวสาร การประกาศของทางราชการอยู่เสมอเพื่อจะได้ปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างถูกต้องเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเองและของผู้อื่น

ในส่วนของศาลยุติธรรมนั้นช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สำนักงานศาลยุติธรรมมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อช่วยสนับสนุนงานการพิจารณาตัดสินคดีของผู้พิพากษา เพื่อลดการเดินทางของคู่ความที่จะต้องเดินทางมาศาลในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ในชั้นของการยื่นคำร้อง คำขอต่าง ๆ ไปจนกระทั่งถึงการสืบพยานสามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ได้ ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรมได้ออกประกาศแนวทางการปฏิบัติให้ศาลยุติธรรมทั่วประเทศดำเนินการแล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง