หลังจากมีการยกระดับมาตรการ เพื่อคุมระบาดของเชื้อโควิด19 มาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีการยกระดับ 6 จังหวัด เป็น "พื้นที่สีแดงเข้ม ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด" ได้แก่ กทม. ชลบุรี นนทบุรี เชียงใหม่ สมุทรปราการ ปทุมธานี ส่วนจังหวัดอื่น เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง)และพื้นที่ควบคุม สีส้ม
ล่าสุด วันที่ 14 พ.ค. 64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงถึงการคลายล็อก หรือ ผ่อนคลายมาตรการ ว่า สำหรับมาตรการการผ่อนคลายมาตรการป้องกันควบคุมโรค โควิด-19 และระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ตามที่คณะกรรมการอีโอซีของกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ศปก.ศบค. ในวันเดียวกันนี้ โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศบค. ได้สั่งการให้พิจารณา เนื่องจากเห็นถึงเรื่องของผู้ประกอบการบางพื้นที่
จึงให้พิจารณาดูว่ามีส่วนใดที่จะพอผ่อนปรนให้ได้บ้าง เพื่อผู้ประกอบการรายย่อยหรือรายเล็ก ผู้ที่ค้าขายอาหารซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ของประชาชน ดังนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรมว. สาธารณสุขจึงได้หารือกับปลัดกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมองวัตถุประสงค์ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบ เพื่อลดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมและให้สอดคล้องกับการระบาดในปัจจุบัน
ดังนั้น การปรับโซนสีจึงต้องเกิดขึ้น ทางศปก.ศบค. จึงสรุปหลักเกณฑ์ได้ 5 ข้อ ดังนี้
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วจะทำให้เกิดการผ่อนคลายมาตรการตามระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ได้แก่
"พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด"(สีแดงเข้ม)
"พื้นที่ควบคุมสูงสุด" (สีแดง)
"พื้นที่ควบคุม" (สีส้ม)
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนรายชื่อจังหวัดใดบ้างที่จะอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม อย่างไรบ้างที่ประชุมยังหารือไม่แล้วเสร็จเนื่องจากยังมีข้อหารือสุดท้ายก่อนที่จะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในฐานะผอ.ศบค. แล้วในวันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคมนี้จะได้แถลงประกาศให้ทราบกันอีกครั้ง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวในช่วงท้าย ว่า ขณะนี้ความห่วงใยสูงสุดยังอยู่ที่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร และทางศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 (ศปก.ศบค.) ศูนย์บริหารสถานการณ์บูรณาการของทางกทม.และปริมณฑล ทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้ข้อมูลชุดต่างๆขึ้นมา ความสำคัญของพวกเราบอกว่าการดึงข้อมูลขึ้นมาก็ว่ายากแล้ว แต่การมีส่วนร่วมของประชาชนมีความสำคัญสูงกว่าและยากกว่าด้วย ซึ่งจะมีการนำข้อมูลขึ้นมาวิเคราะห์ และนำข้อมูลนี้มาถึงประชาชนเพื่อให้ช่วยกัน
ขณะเดียวกันต้องขอแรงสื่อมวลชนด้วย เมื่อได้รับทราบข้อมูลแล้วก็ขอให้นำข้อมูลต่างๆเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์และไปช่วยในการขับเคลื่อน ควบคุมโรคและนำผู้ป่วยออกมาจากชุมชนเพื่อนำมาสู่การรักษาให้ได้ นี่คือหลักการเบื้องต้นที่เรารับรู้ และเข้าใจโรคนี้มาร่วมกัน จึงต้องขอแรงทุกคนช่วยกัน เราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
ฐานเศรษฐกิจ รายงานว่า จากข้อมูลเดิม มติที่ประชุมศบค.เมื่อ 29 เม.ย.64 ก่อนที่จะมีการประกาศลงราชกิจจานุเบกษาให้มีผลวันที 1 พ.ค. 64 นั้น เป็นการ มาตรการยกระดับ 6 จังหวัด เป็น "พื้นที่สีแดงเข้ม ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด" และพื้นที่ควบคุมสูงสุด สีแดง และพื้นที่ควบคุม สีส้ม โดย ณ วันที่ 14 พ.ค. 64 คำสั่ง ณ ปัจจุบัน จึงมีดังนี้
พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 6 จังหวัด (สีแดงเข้ม) ได้แก่ กทม. ชลบุรี นนทบุรี เชียงใหม่ สมุทรปราการ ปทุมธานี
พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 45 จังหวัด (จากเดิม 18 จังหวัด) ได้แก่
พื้นที่ควบคุม(สีส้ม) 26 จังหวัด (เดิม 59 จังหวัด) ได้แก่
ดังนั้นต้องติดว่า วันที่ 15 พ.ค. ที่จะมีการประชุมศบค.ชุดใหญ่ จะยังคงแบ่งโซนสีตามเดิม หรือ แบ่งใหม่ตามสถานการณ์ของแต่ละจังหวัดที่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนสีได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :