ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบ "มาตรการคลายล็อก" ซึ่งมีการกำหนดข้อปฏิบัติใหม่ ในการสวมหน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า ในห้องประชุม หรือที่ประชุม
ซึ่งระบุใน "ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 23 )" ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 64 และมีผลบังคับใช้วันที่ 17 พ.ค. 64 ลงนามโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐนตรี
โดยข้อปฏิบัติในการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าระบุอยู่ใน ข้อ 1 โดยมีรายละเอียดว่า
ข้อปฏิบัติในการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างถูกวิธีตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เมื่ออยู่นอกเคหสถานหรือเมื่ออยู่ในที่สาธารณะยังคงเป็นข้อปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงในการแหร่หรือรับเชื้อการจัดกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากและมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่ายที่ดำเนินการ
โดยพนักงานเจ้าหน้าที่หรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่กลุ่มบุคคลที่จำเป็นต้องเข้าประชุมอยู่ในสถานที่หนึ่งที่ใดเป็นระยะเวลานานและต่อเนื่องหลายชั่วโมงซึ่งการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาอาจไม่สะดวกหรือเป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่ในการประชุม หากผู้จัดประชุมได้กำหนดให้มีมาตรการตรวจคัดกรองบุคคลและได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค ที่ทางราชการกำหนดอย่างรอบคอบ รัดกุม และเข้มงวดเพียงพอแล้ว
เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม การให้ผู้เข้าร่วมประชุมสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าและเครื่องป้องกันตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด รวมทั้งการแสดงบรับรองผลการตรวจว่าไม่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และการจัดให้มีกระบวนการคัดกรองโดยพิจารณาจากอาการของโรค ประกอบกับได้ดำเนินการภายใต้มาตรการควบคุมการประชุมตามระเบียบหรือข้อบังคับเมื่อเกิดเหตุที่มีความเสี่ยงโดยให้ผู้ควบคุมการประชุมกำหนดให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาการประชุม แต่อาจพิจารณาผ่อนผันได้เฉพาะช่วงเวลาของการอภิปรายหรือแสดงความเห็นในที่ประชุมได้ตามความเหมาะสมแห่งสภาพการณ์และความสมควรแก่เหตุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :