ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด -19 รอบนี้คนไข้หนักมีปริมาณเพิ่มขึ้นมาก และปริมาณผู้ป่วยใหม่ ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากกิจกรรมต่างๆ ที่ดำเนินมา 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ แม้ขณะนี้จะสามารถช่วยดูแลรักษาผู้ป่วยไปได้จำนวนมากแล้ว แต่ยังต้องเข้มข้นกับมาตรการต่างๆ อย่างเต็มที่ ไม่ละเมิด จึงจะช่วยกู้สถานการณ์ได้ ไม่เช่นนั้น จะทำให้การแพร่ระบาดขยายวงกว้างออกไปอีก
ปีนี้สัดส่วนคนไข้หนักขึ้นเพิ่มจากปีที่แล้ว จากระลอกแรก มีผู้ป่วยหนักเป็นจำนวนหลักหน่วย แต่ตอนนี้มีจำนวนผู้ป่วยหนักถึงกว่า 30% จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด และยังมีปัจจัยลบที่เพิ่มขึ้นมาคือ การที่ต้องเผชิญกับไวรัสกลายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์อังกฤษ สายพันธุ์อินเดีย การที่มีจำนวนผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้น จำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตก็เพิ่มปริมาณขึ้นด้วยเช่นกัน โดยปีนี้เราได้เห็นจำนวนผู้เสียชีวิตต่อวันเป็นตัวเลขสองหลัก
ขณะนี้เดียวกัน บุคลากรทางการแพทย์ก็ถูกจู่โจมเร็วมาก มีปริมาณผู้ติดเชื้อไปแล้วกว่า 500 คน สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เป็นการติดเชื้อมาจากข้างนอก ทำให้การควบคุม การติดตามค่อนข้างลำบาก
อย่างไรก็ตาม ปีนี้รูปแบบการป้องกัน และการรักษาดีขึ้น เพราะได้เรียนรู้จากปีที่ผ่านมา และอุปกรณ์ในการรักษามีความพร้อมมากขึ้น มีเครื่องมือใหม่ๆ เช่น High-Flow Oxygen เข้ามาเสริม ทำให้ช่วยลดการเสียชีวิต และการใช้เครื่องช่วยหายใจได้มากขึ้น และยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการรักาาผู้ปป่วยโควิด ก็ได้ผลดี แต่ต้องให้ให้เร็ว ซึ่งต้องใช้เฉลี่ยต่อวันราว 5 หมื่นเม็ด ขณะนี้มีการสำรองยาเพียงพอแล้ว โดยล่าสุด องค์การเภสัชกรรมสำรองเพิ่มอีก 5.5 ล้านเม็ด ส่วนที่ประเทศไทยจะผลิตเอง จะเริ่มได้ประมาณตุลาคม 2564
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด -19 ในกรุงเทพฯ ก็สามารถดำเนินการไปแล้วกว่า 80% อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์อินเดียยังไม่เข้าไทย แม้จะตรวจเจอ แต่สามารถอยู่ในความควบคุมได้ ตอนนี้กำชับการควบคุมดูแลอย่างเต็มที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง