นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากที่โฆษกศบค.ได้รายงานข้อมูลว่าแคมป์คนงานหลักสี่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย B.1617.2 จำนวน 15 คน ตอนนี้อยู่ในการดูแลของ รพ.และจะได้ส่งทีมสอบสวนโรคเข้าไปดูแลการติดเชื้อต่อไป
กรณีดังกล่าวทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีการนำ 61 ตัวอย่างและพบว่า 15 ตัวอย่าง ผลออกมาเป็นสายพันธุ์อินเดีย แบ่งออกเป็นชาย 7 คน หญิง 8 คน อายุเฉลี่ย 46 ปี โดยมีอาการเล็กน้อย ไม่รุนแรง ขณะนี้รักษาตัวอยู่ในรพ. ทั้งนี้จากการสอบสวนพบว่า 15 ตัวอย่างเป็นคนงานที่อยู่ในแคมป์ก่อสร้างหลักสี่ 12 คน และอีก 3 คนเป็นสัมผัสร่วมบ้าน ซึ่งคงจะมีการสอบสวนและติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดต่อไป
นพ.โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีการนำข้อมูลจากประเทศอังกฤษเกี่ยวกับสายพันธุ์นี้และพบว่าการแพร่กระจายของสายพันธุ์อังกฤษและอินเดียไม่ต่างกัน ความรุนแรงของโรคยังไม่มีข้อใดบอกว่ารุนแรงมากกว่าสายพันธุ์อังกฤษ หรือการไม่ตอบสนองต่อวัคซีน ก็พบว่าสายพันธุ์อินเดียไม่ดื้อกับวัคซีนหลักของไทย นั่นก็คือแอสตร้าเซเนก้า
โดยทางกระทรวงสาธารณสุข จะร่วมกับทางกทม.และอีกหลายหน่วยงานในการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ติดตามผู้สัมผัส หาผู้ป่วยเชิงรุก
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 64 กระทรวงการต่างประเทศของไทยได้มีคำสั่งระงับหนังสืออนุญาตเข้าประเทศ หรือ COE ให้แก่ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศปากีสถาน บังกลาเทศ และเนปาล เข้าไทยชั่วคราว ทั้งนี้เพื่อเป็นการสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย
เนื่องจากมีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียรายแรกในประเทศไทยเป็นหญิงไทย อายุ 42 ปี ตั้งครรภ์ 25 สัปดาห์ เดินทางมาจากปากีสถาน พร้อมกับลูกชาย 3 คน ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งเฝ้าระวังสูงสุดเพราะหวั่นเกรงว่าเชื้อจะกลายพันธุ์ ดังนั้นจึงต้องมีการออกประกาศคำสั่งดังกล่าวขึ้นมาเป็นการชั่วคราว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง