"โควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย"มาแล้ว หมอธีระชี้มาตรการตอนนี้ไม่พอ แนะใช้ regional lockdown

21 พ.ค. 2564 | 09:05 น.

"โควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย"มาแล้ว หมอธีระชี้มาตรการตอนนี้ไม่พอ แนะใช้ regional lockdown หรือเทียบเท่า ภายในปลายเดือนพฤษภาคม เพื่อหยุดการระบาด

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า 21 พฤษภาคม 2564
    Mindset ของการต่อสู้กับโควิด-19 (Covid-19) นั้นสำคัญอย่างมาก
    การมุ่งที่จะกำจัดไวรัสให้หมดไป (Elimination) จากพื้นที่ กับการตั้งเป้าแค่ลดทอนการระบาดลง (Mitigation) จะได้ผลลัพธ์ของการต่อสู้ที่แตกต่างกัน
Oliu-Barton M และคณะแชร์ข้อมูลวิเคราะห์ผลลัพธ์ในเชิงจำนวนการตายจากโควิด-19 การสูญเสีย GDP และมาตรการล็อคดาวน์ที่ต้องดำเนินการจัดการกับโรคระบาด ในกลุ่มประเทศ OECD โดยเปรียบเทียบระหว่างประเทศที่เข้มข้นมุ่งกำจัดตั้งแต่แรก กับประเทศที่ตั้งเป้าแค่ลดทอนการระบาด
    ผลที่เห็นนั้นแม้จะไม่สามารถการันตีความเป็นเหตุและผลโดยตรงได้ แต่ชี้ให้เห็นแนวโน้มที่ชัดเจนว่า หากตัดสินใจเข้มข้นตั้งแต่แรกจะสูญเสียชีวิต สูญเสียเศรษฐกิจ และสูญเสียอิสระเสรีภาพน้อยกว่าเป็นไปในลักษณะที่ว่า การเงื้อง่าราคาแพง ก็ย่อมมีโอกาสทำให้ตกอยู่ในภาวะ "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย"

\"โควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย\"มาแล้ว หมอธีระชี้มาตรการตอนนี้ไม่พอ แนะใช้ regional lockdown
    ยังขอเน้นย้ำเตือน (แม้จะไม่อยากฟันธง) ว่า ศึกที่กำลังเผชิญอยู่นี้ ควรพิจารณา regional lockdown หรือเทียบเท่า ภายในปลายเดือนครับ เพื่อหยุดการระบาดให้ได้ ป้องกันไม่ให้ระบบสุขภาพตกอยู่ในภาวะเกินกำลัง ป้องกันการสูญเสียชีวิต และลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว 
    ทั้ง  B.1.1.7 (UK) หรือโควิด-19สายพันธุ์อังกฤษ และ B.1.617 (India) หรือโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย ก็เข้ามาแล้ว ขอบอกตรงๆ ว่า มาตรการที่มีตอนนี้ไม่พอครับ 
    ขอให้พวกเราทุกคนป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด
    เอาใจช่วยทุกคน
    ด้วยรักและห่วงใย
    อ้างอิง
    Oliu-Barton M et al. SARS-CoV-2 elimination, not mitigation, creates best outcomes for health, the economy, and civil liberties. The Lancet. 28 April 2021.

อย่างไรก็ดี ล่าสุด นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค  กล่าวว่า การติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดียที่แคมป์คนงานหลักสี่นั้น พบติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย 15 ราย จากการตรวจตัวอย่างทั้งหมด 61 ราย  โดยผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย จำนวน15 รายนั้น แบ่งเป็นชาย 7 คน หญิง 8 คน  เป็นคนงาน 12 คน และเป็นผู้สัมผัสโรคร่วมบ้านคนงานที่ติดเชื้อ 3 คน  ทั้งหมดมีอาการเล็กน้อย 

สำหรับข้อกังวลของประสิทธิภาพวัคซีนนั้น ยืนยันว่า วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า (AstraZeneca) ซึ่งเป็นวัคซีนหลักของไทยมีประสิทธิภาพต่อโควิดสายพันธ์ุอินเดีย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :