รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยระบุข้อความว่า
ไวรัสสายพันธุ์อินเดีย น่ากลัวมากน้อยแค่ไหน มารู้จักรายละเอียดให้เข้าใจชัดเจนมากขึ้น
ขณะนี้ประเทศไทยมีข่าวคราวเรื่อง ไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อินเดีย (Indian Variant) กันมากโดยเฉพาะหลังจากมีการตรวจพบคนงานที่แคมป์หลักสี่ ติดไวรัสสายพันธุ์อินเดียรวดเดียวถึง 36 ราย ประกอบกับเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์อินเดีย จนกลายเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศอินเดีย( ผู้ติดเชื้อกว่าร้อยละ 90 เป็นสายพันธุ์อินเดีย) และก่อให้เกิดการติดเชื้อวันละหลาย 100,000 คนเสียชีวิตวันละหลาย 1000 คน จนองค์การอนามัยโลก(WHO) ต้องประกาศให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลของโลก (Vriant of global concern)
เราพบว่าไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์หลักของโลก ในขณะนี้ มีด้วยกันสี่สายพันธุ์ได้แก่
1.ไวรัสสายพันธุ์อังกฤษ (B.117 ) เริ่มต้นพบในประเทศอังกฤษ ช่วงกันยายน 2563 กรดอะมิโนเปลี่ยนแปลงที่ตำแหน่ง 501
2.ไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ (B 1.351) พบในประเทศแอฟริกาใต้ ช่วงตุลาคม 2563 มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกรดอะมิโนที่ตำแหน่ง 501 และ 484
3.ไวรัสสายพันธุ์บราซิล (P.1) พบการระบาดในประเทศบราซิล ช่วงธันวาคม 2563 พบการเปลี่ยนแปลงของกรดอะมิโนที่ตำแหน่ง 501 และ 484
4.ไวรัสสายพันธุ์อินเดีย (B 1.167)พบการระบาดในอินเดียต้นปี 2564 มีการเปลี่ยนแปลงที่ตำแหน่ง 681 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ตำแหน่ง 484
ความสำคัญในการพิจารณาความน่ากลัวของไวรัสกลายพันธุ์ ให้พิจารณาสามประเด็นได้แก่
1.ความสามารถในการแพร่กระจาย หรือก่อให้เกิดการระบาดติดเชื้อ ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงที่ตำแหน่ง 501 และ 681
2.ความสามารถในการทำให้เกิดโรค ที่มีอาการรุนแรง
3.ความสามารถในการต่อต้านหรือดื้อต่อวัคซีน จะขึ้นอยู่ที่ตำแหน่ง 484
เราพบว่า ไวรัสสายพันธุ์อังกฤษ มีการเปลี่ยนแปลงที่ตำแหน่ง 501 จึงทำให้มีความสามารถในการแพร่เชื้อ กว้างขวางขึ้นถึง 70%
ส่วนไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ มีการเปลี่ยนแปลงทั้งตำแหน่ง 501 และ 484 เช่นเดียวกับไวรัสสายพันธุ์บราซิล จึงทำให้มีการแพร่เชื้อกว้างขวางรุนแรง ร่วมไปกับการดื้อต่อวัคซีน เพราะตำแหน่ง 484 เป็นตำแหน่งที่ดื้อกับวัคซีน
ส่วนไวรัสสายพันธุ์อินเดีย มีการเปลี่ยนแปลงที่ตำแหน่ง 681 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้มีการแพร่เชื้อระบาดกว้างขวางขึ้น เช่นเดียวกับตำแหน่ง 501 และมีแนวโน้มว่าจะระบาดกว้างขวางได้มากกว่าตำแหน่ง 501 ในสายพันธุ์อังกฤษด้วย แต่ในตำแหน่ง 484 ไม่มีการเปลี่ยนแปลง จึงไม่น่าจะดื้อต่อวัคซีน
พอจะสรุปเบื้องต้นในขณะนี้ว่า
ไวรัสสายพันธุ์อินเดีย น่าจะมีความสามารถในการแพร่เชื้อกว้างขวางรวดเร็ว อย่างน้อยเท่ากับหรืออาจจะมากกว่าสายพันธุ์อังกฤษ ที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศไทยขณะนี้
ส่วนการดื้อต่อวัคซีนนั้น ยังไม่มีการดื้อต่อวัคซีน เช่นเดียวกับไวรัสสายพันธุ์อังกฤษ
แต่อย่างไรก็ตาม ไวรัสกลายพันธุ์ทุกสายพันธุ์ ล้วนแต่ก่อปัญหาให้เกิดขึ้นกับประเทศนั้นนั้นได้เสมอ รวมทั้งไวรัสกลายพันธุ์ที่จะเกิดขึ้นในประเทศนั้นเอง เป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีเหตุจะทำให้เกิดได้สองประการได้แก่
1.มีการติดเชื้อของประชาชนเป็นจำนวนมากอย่างกว้างขวาง ยับยั้งไม่อยู่ เช่น การเกิดขึ้นของไวรัสกลายพันธุ์ของอังกฤษ แอฟริกาใต้ และบราซิลก็เกิดจากการแพร่ระบาดอย่างมากมายในประเทศตนเอง
2.มีการฉีดวัคซีนในอัตราที่ยังไม่รวดเร็วพอ ทำให้ไวรัสมีพัฒนาการหลบหลีก หรือดื้อต่อวัคซีนได้ทัน
ทั้งสองกรณี ทำให้ไวรัสมีโอกาสกลายพันธุ์เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รายงานยอดติดเชื้อโควิด-19 ของวันที่ 23 พ.ค.64 จากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. พบว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นรวม 3,382 ราย ในจำนวนนี้มาจากผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,325 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,590 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 460 ราย มาจากต่างประเทศ 5 ราย อัพเดท ยอดโควิดวันนี้ ติดเชื้อรายใหม่ 3,382 อาการหนัก 1,210 หายป่วยเพิ่ม 2,131 ราย
สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 129,500 ราย รักษาหายเพิ่ม 2,131 ราย ผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 84,535 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 44,189 ราย อาการหนัก 1,210 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 412 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 776 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :