แนะหยุดยาไมเกรน-แก้หวัด-ยาคุมกำเนิดก่อนฉีด "วัคซีนโควิด-19"

30 พ.ค. 2564 | 02:10 น.
อัปเดตล่าสุด :30 พ.ค. 2564 | 09:10 น.

หมอธีระวัฒน์แนะหยุดยาไมเกรน-แก้หวัด-ยาคุมกำเนิดก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 ระบุควรใช้กับวัคซีนชนิดอื่นด้วย

รายงานข่าวระบุว่า ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha) โดยมีข้อความว่า 
    ผลข้างเคียงของวัคซีนแม้เกิดได้น้อยมากๆก็ตาม แต่ถ้าสามารถป้องกันไม่ให้เกิดได้จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด กลไกของผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิด ที่สำคัญประการหนึ่ง(นอกจากการแพ้เฉียบพลัน ) คือการจุดให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง และมีผลต่อเนื่อง ทำให้เส้นเลือดหดตัว และลิ่มเลือด และเป็นเหตุผลที่ต้องละเว้นยาที่มีผลทำให้เส้นเลือดหดตัวอยู่แล้ว เช่นยาแก้ปวดไมเกรนและยาแก้หวัด คัดจมูกกลุ่มที่มีฤทธิ์ทำให้กระทบต่อเส้นเลือดและหัวใจ 
    แต่สำหรับน้ำมันกัญชานั้นผู้ป่วยที่ใช้อยู่แล้วเนื่องจากมีโรคประจำตัวซึ่งมีพื้นฐานจากการอักเสบและประการสำคัญคือน้ำมันกัญชาสามารถลดการอักเสบได้ 
ดังนั้นผู้ที่ใช้น้ำมันกัญชาอยู่แล้วเช่นของอาจารย์เดชาของกรมการแพทย์แผนไทย เป็นสิ่งที่ควรใช้ต่อโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณ
    และสำหรับสตรีที่ใช้ฮอร์โมนเพศหญิงสำหรับคุมกำเนิดหรือภาวะเกี่ยวข้องกับข้อมูลควรที่จะหยุดก่อนที่จะฉีดวัคซีนทั้งนี้อย่างน้อย 14 วัน ถ้าทำได้
ทั้งนี้ข้อแนะนำตังกล่าวควรจะใช้สำหรับวัคซีนอื่นด้วยเช่นกัน
    ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมข้อมูลการฉีดวัคซีนในประเทศไทยจากกรมควบคุมโรค  กระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-28 พ.ค.64 พบว่า มีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 3,504,125 โดส ประกอบด้วย เข็มที่ 1 สะสม 2,415,903 ราย และเข็มที่ 2 สะสม 1,088,222 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :