นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่องค์กรปกคอรงส่วนท้องถิ่น(อปท.) ประสานเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทย ให้สามารถใช้เงินท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ว่า มีอยู่หลายประเด็น คือ หากซื้อตรงจากผู้ผลิต ผู้ขายไม่สามารถขายได้ อีกทั้งจะไปซื้อจากตัวแทนจำหน่ายก็อาจจะทำได้ ซึ่งขณะนี้ได้ทราบว่าตัวแทนผู้จำหน่ายที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกราย มีพันธะกับผู้ซื้อแล้ว
อย่างเช่น ชิโนฟาร์มมีพันธะอยู่กับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หรือ โมเดอร์นาก็มีเอเยนต์แล้วเช่นกัน ซึ่งเอเยนต์เหล่านี้ไม่สามารถไปขายให้กับผู้อื่นได้เพราะฉะนั้นเหลือเพียงทางเดียว ไปซื้อเช่นเดียวกับกรณีราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์หรือใครก็ตามที่ทำแบบราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
แต่ทั้งนี้ จะมีปัญหาเรื่องการนำเงินออกมาใช้ อย่างกรณีของ ปตท. สภาอุตสาหกรรม ซึ่งก็ถือเป็นเงินของเขา แต่ในกรณีที่อปท.ซึ่งเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินมีระเบียบของกระทรวงมหาดไทยอยู่ ฉะนั้นจะต้องไปปลดล็อคก่อน เพราะก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าจะมีการนำเงินไปซื้อวัคซีน ดังนั้น จะต้องไปติดต่อกระทรวงมหาดไทยก่อน ตนไม่ทราบในรายละเอียด
ส่วนที่ขณะนี้มีหลายจังหวัดติดต่อไปที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อที่จะซื้อวัคซีนนั้น นายวิษณุ ระบุว่า ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ หากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ไปตรวจสอบก็จะผิด เพราะใช้เงินผิดประเภท ดังนั้นต้องทำให้ถูกประเภทเสียก่อน ก็คือการให้กระทรวงมหาดไทยอนุญาตและออกเป็นกฎระเบียบก่อน
ส่วนวัคซีนที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์มีอยู่จะเพียงพอต่อการฉีดหรือไม่นั้น นายวิษณุ ระบุว่า ที่มีอยู่ 1 ล้านโดสก็จะหมดอยู่แล้ว
ข่าวเกี่ยวข้อง: