"AstraZeneca" ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 18-มากกว่า 60 ปี "หมอเฉลิมชัย" ชี้คุ้มค่าต่อผลข้างเคียง

รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
    ชัดเจนแล้ว !! วัคซีน AstraZeneca สามารถฉีดได้ในทุกอายุ โดยเฉพาะผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี
    โดยสื่ออิตาลี ซึ่งเป็นต้นเหตุของความเข้าใจผิด ได้ออกมาแก้ไขข่าวเรียบร้อยแล้ว
    จากที่มีรายงานข่าวจากสื่อตะวันตกหนังสือพิมพ์ของอิตาลี ( La Stampa) ลงคำให้สัมภาษณ์ของหัวหน้าคณะทำงานโควิด-19 ( Chief Taskforce) ขององค์การยาแห่งยุโรป (EMA : European Medicines Agency)
โดยมีใจความที่คลาดเคลื่อนว่า EMA ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีน AstraZeneca กับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มที่อายุมากกว่า 60 ปี เนื่องจากมีผลข้างเคียงเรื่องลิ่มเลือด
    ต่อมาหัวหน้าคณะทำงาน (Marco Cavaleri) ได้ออกแถลงการณ์และส่งตรงไปยังสำนักข่าวรอยเตอร์ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ไม่ได้เป็นไปตามที่มีการลงข่าวเรื่องวัคซีน AstraZeneca แต่อย่างใด โดยได้ย้ำว่า เมื่อพิจารณาถึงประโยชน์และความเสี่ยงแล้ว ( Benefit risk profile) มีความคุ้มค่า ที่จะแนะนำให้ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca ต่อไปในคนที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี 
    โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอิตาลี ก็ออกมายืนยันว่า จะให้ฉีดวัคซีน AstraZeneca กับคนอิตาลีที่อายุมากกว่า 60 ปีต่อไป
    ส่วนสื่ออิตาลี ซึ่งเป็นต้นตอของแหล่งข่าว ที่มีความคลาดเคลื่อนว่า ไม่ให้ฉีดวัคซีนในคนอายุมากกว่า 60 ปี ก็ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยการเปลี่ยนพาดหัวข่าว และยังลงคำแถลงของหัวหน้าคณะทำงานดังกล่าวด้วย โดยที่ปฏิเสธจะให้ความเห็นเพิ่มเติม
    เรื่องนี้จึงสรุปได้ว่า
    1.วัคซีนของ AstraZeneca มีความปลอดภัยสูง มีผลข้างเคียงน้อย เมื่อคำนึงถึงประโยชน์ที่ได้จากการป้องกันโรค และผลข้างเคียงดังกล่าว ถือว่ามีความคุ้มค่า ที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
และไม่มีข้อห้าม หรือข้อพึงระวังในการฉีดคนที่อายุเกิน 60 ปีแต่อย่างได้
    2.การอ่านรายงานข่าว การฟังเรื่องเล่าต่อๆกันมา ในโลกยุคปัจจุบัน จะต้องระมัดระวังความคลาดเคลื่อนของข่าว ถึงแม้จะเป็นสื่อของประเทศตะวันตก ที่คนไทยมักเชื่อกันว่า มีความน่าเชื่อถือมากกว่าสื่อไทยก็ตาม

    กรณีนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ในทำนองเดียวกับสื่อตะวันตก ได้เคยลงข่าวว่า มีนักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก แจ้งว่าไวรัสก่อโรคโควิด พบได้ในค้างคาวของประเทศไทยที่ตลาดจตุจักร ซึ่งสุดท้ายแล้ว ก็ต้องออกมาแก้ไขความคลาดเคลื่อนดังกล่าว 
    สื่อตะวันตกทั้งสองกรณี ได้ออกมายอมรับว่า การเขียนข่าวรายงานนั้นมีความคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง  ไม่ตรงกับเนื้อหาที่ผู้ให้ข่าวประสงค์  การรายงานข่าวโควิด จึงต้องใช้ความระมัดระวัง ละเอียดรอบคอบเป็นอย่างมาก เพราะมีความซับซ้อนทางวิชาการมาก จึงต้องการผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจที่ลึกซึ้งและมากเพียงพอ ในเรื่องวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะเรื่องวัคซีนและเรื่องไวรัสก่อโรค
    การเสพข่าวเกี่ยวกับเรื่องโควิด-19 และเรื่องวัคซีน จึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง ไม่ควรเชื่อข่าวโดยที่ไม่ได้มีการตรวจสอบกับแหล่งข่าวอื่นเพิ่มเติมครับ
    ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิด-19 (Covid-19) ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-13 มิ.ย.64 จากศูนย์ข้อมูล COVID-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า มีการฉีดวัคซีนสะสมแล้วทั้งหมด 6,188,124 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 4,531,914 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 1,656,210 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• "สงครามโควิด" ทำไมต้องบุกเร็ว-แรง หมอธีระวัฒน์แนะฉีดเข็ม 2 "AstraZeneca"-"ซิโนฟาร์ม" เร็วขึ้น
• เปิดจุดเด่น "ChulaCov19" วัคซีนฝีมือคนไทย "จุฬา" คาดใช้งานได้จริงกลางปี 65
• ห่วง "โควิดสายพันธุ์อินเดีย" ระบาดในไทย "หมอยง" แนะเร่งฉีดวัคซีนในคนหมู่มาก
• ยอดโควิดวันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 3,000 ราย เสียชีวิต 19 คน
• ยาไมเกรน-คุมกำเนิดกินได้ก่อนฉีดวัคซีนโควิด "หมอยง" แนะให้ทำตัวเหมือนปกติ