9 วิถีชีวิตที่พึงปฏิบัติตลอดครึ่งปีหลังรับมือโควิด "หมอธีระ" ย้ำฉีดวัคซีนแล้วยังมีโอกาสติดเชื้อ

22 มิ.ย. 2564 | 02:20 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มิ.ย. 2564 | 04:31 น.

หมอธีระเผย 9 วิถีชีวิตที่พึงปฏิบัติตลอดครึ่งปีหลังรับมือโควิด-19 ย้ำการใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆ กัน คือเกราะป้องกันตนเองและครอบครัว

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
    "วิถีชีวิตที่พึงปฏิบัติ" ตลอดครึ่งปีหลังนี้...
    การกินดื่ม: 
    ซื้อกลับไปยาวๆ ไม่ว่าจะตอนไปทำงานข้างนอก หรืออยู่บ้าน
    การเดินทาง: 
    เลี่ยงขนส่งสาธารณะ ใช้เท่าที่จำเป็น วางแผนตารางเวลาให้ดี เลือกช่วงที่ไม่แออัด ล้างมือทุกครั้ง ใส่หน้ากากเสมอ
    การซื้อและรับสินค้า: 
    พกถุงผ้าของตัวเอง พ่นสเปรย์แอลกอฮอล์ 
    การซื้อบริการต่างๆ: 
    ออนไลน์เป็นหลัก รวมถึงการรักษาพยาบาลหากทำได้ ถ้าจำเป็นต้องรับบริการบางอย่าง เช่น ตัดผมทำผม ตัดเองได้ก็ดี ถ้าไม่ได้ก็นัดหมายล่วงหน้า ใส่หน้ากากและติดเทปรอบๆ ขอบหน้ากากให้ยึดกับใบหน้าเวลาเอาห่วงคล้องหูลงมาเพื่อตัดผมทำผม แจ้งให้ช่างใส่หน้ากากและเฟซชิลล์ด้วย ใช้เวลาสั้นๆ หากคนแออัด ให้เลี่ยงการใช้บริการ
    การจัดการที่อยู่อาศัย: 
    ทำความสะอาดเสมอ จัดที่ทางไว้สำหรับแยกคนที่ไม่สบายออกจากคนอื่นในบ้าน

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
    การนอนหลับ/พักผ่อนหย่อนใจ: 
    นอนที่บ้านจะดีที่สุด นอกบ้านยากนักที่จะการันตีความปลอดภัย ที่พักแรมข้างนอกเป็นสถานที่และสิ่งของที่ใช้ร่วมกับผู้อื่น ดังนั้นจึงมีโอกาสปนเปื้อนได้แม้จะมีมาตรการทำความสะอาดตามที่กำหนด และคงต้องทำใจไว้ระดับหนึ่งว่า ตราบใดที่สถานการณ์เป็นเช่นนี้ ย่อมไม่เหมาะแก่การตะลอนท่องเที่ยว รวมถึงการกินนอกบ้าน ดูหนัง หรือสถานบันเทิงอื่นๆ
    การสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด: 
    ระลึกเสมอว่าไม่ว่าเพื่อนจะสนิทเพียงใด รวมญาติและคนในครอบครัว ล้วนมีโอกาสติดเชื้อได้ แม้จะรับวัคซีนมาแล้ว ด้วยความชุกของโรคที่มากและกระจายไปทั่วเช่นนี้ จงรักษาระยะห่างกันไว้ และควรถามไถ่ตรวจสอบคนในบ้านเสมอว่าไปไหนมาไหนที่เสี่ยงบ้างไหม มีอาการไม่สบายบ้างไหม ไข้ไอเจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ดมไม่ได้กลิ่น ลิ้นรับรสไม่ได้ ไม่ว่าจะมีอาการใด ขอให้รีบไปตรวจรักษา อย่าปล่อยทิ้งไว้ ไม่งั้นจะติดกันยกที่ทำงาน และยกครอบครัว
    การทำงาน: 
    ทำที่บ้าน ทำออนไลน์ หากทำได้เช่นนี้จะดีกว่า แบ่งทีมทำงานไว้หลายทีม สลับกันทำงานไปเผื่อใครติดเชื้อจะได้ยังมีกำลังพล ยิ่งหากใครทำงานค้าขายหรือบริการ พบปะผู้คนมาก ควรจัดให้มีระบบการตรวจน้ำลายแบบรวมกลุ่ม (pooled saliva RT-PCR) เป็นระยะ ทุก 2-4 สัปดาห์ โดยปรึกษากับทางโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อทำให้เป็นกิจวัตร หากตรวจพบจากน้ำลาย ก็ค่อยส่งทุกคนในกลุ่มนั้นไปตรวจแยงจมูกรายคน
    การเรียนรู้: 
    คงต้องเรียนรู้ว่าการระบาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบันรุนแรง ยากที่จะจัดการ ไม่ควรหลงเชื่อว่าฉีดวัคซีนแล้วจะอิสระเสรีได้ ควรทราบไว้ว่ายังมีโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ แม้จะลดโอกาสป่วย ป่วยรุนแรง หรือเสียชีวิต แต่ก็ไม่ได้การันตี 100% นอกจากนี้โรคระบาดนี้ 3 ปัจจัยเสี่ยงหลักคือ ใกล้กัน เจอกันบ่อย และอยู่ด้วยกันนาน จะอยู่รอดปลอดภัยได้ ต้องป้องกันสามเรื่องนี้ให้ได้ 
    การใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆ กัน คือเกราะป้องกันตนเองและครอบครัว...
    ด้วยรักและห่วงใย
    ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทยวันที่ 22 มิถุนายน 264 จากศูนย์ข้อมูล COVID-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า
    มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4,059 ราย 
    สะสมระลอกที่สาม 196,502 ราย
    สะสมทั้งหมด 225,365 ราย
    หายป่วยกลับบ้านได้ 2,047 ราย
    สะสม 160,410 ราย
    เสียชีวิตเพิ่ม 35 ราย
    สะสมระลอกที่สาม 1,599 ราย
    สะสมทั้งหมด 1,693 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :