"โควิด-19" กับสิ่งที่รัฐบาลต้องปกป้อง "อ.นิด้า"ชี้ต้องชีวิตประชาชนไม่ใช่ความนิยมต่อจีน

24 มิ.ย. 2564 | 03:10 น.
อัปเดตล่าสุด :24 มิ.ย. 2564 | 03:12 น.

อ.นิด้าออกโรงเผยสิ่งที่รัฐบาลควรปกป้องในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ชี้ต้องชีวิตประชาชนไม่ใช่ความนิยมต่อจีน

นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว (Sunt Srianthumrong) โดยมีข้อความว่า
    Covid-19: สิ่งที่รัฐบาลจะต้องปกป้อง
    รัฐบาลจะต้องปกป้องชีวิตประชาชน ไม่ใช่ความนิยมของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลจีน สินค้าจีน หรืออะไรก็ได้ที่ผลิตโดยจีน ไม่ใช่อเมริกา 
    รัฐบาลต้องปกป้องสวัสดิภาพของประชาชน ไม่ใช่สวัสดิภาพของระเบียบราชการ แบบทุกตัวอักษร ทุกขั้นตอนทุกวาระ 
    รัฐบาลต้องปกป้องระบบสาธาณสุขให้เปิดและดำเนินไปได้ ไม่ใช่ทำทุกอย่างเพื่อให้ห้างสรรพสินค้าหรูยังคงเปิดกิจการได้ เก็บค่าเช่าจากผู้ค้าได้
    ฐบาลต้องปกป้องผู้คนในพื้นที่ระบาดหนัก ไม่ใช่ผู้คนในพื้นที่ฐานเสียง
    รัฐบาลต้องปกป้องชีวิตคนแก่เฒ่า ไม่ใช่สายการผลิตในโรงงาน ไม่ใช่ความก้าวหน้าในการก่อสร้าง
    รัฐบาลต้องปกป้องให้เด็กๆไปโรงเรียนได้ ไม่ใช่ให้บ่อนเปิดได้
    รัฐบาลต้องปกป้องพ่อแม่ให้ลูกให้ครอบครัว ไม่ใช่คนงานมดงานให้โรงงานและธุรกิจ
    รัฐบาลต้องปกป้องคนทำมาหากินสุจริต ไม่ใช่คนเก็บส่วยขนแรงงานผิดกฎหมายเข้าประเทศ
    รัฐบาลต้องปกป้องผู้คนและธุรกิจสายป่านสั้น ไม่ใช่ธุรกิจใหญ่สายป่านยาว
    รัฐบาลต้องปกป้องเงินในกระเป๋าของประชาชน ไม่ใช่เงินในประเป๋าของรัฐบาล 
    รัฐบาลต้องปกป้องบ้านเขา กิจการเขาไม่ให้ถูกยึด  ไม่ใช่ปกป้องผลประกอบการของธนาคาร 
    รัฐบาลต้องปกป้องผู้ใช้บริการร้านสะดวกซื้อ ไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อและบรรดาผู้ถือหุ้น
    รัฐบาลต้องปกป้องผู้คนที่อ่อนแอและถูกกระทำซึ่งคือคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ผู้เข้มแข็งและมีอภิสิทธิเหนือคนอื่นๆเสมอซึ่งคือคนส่วนน้อย
    รัฐบาลที่ดีจะต้องเป็นผู้ที่ทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่เสมอ  ไม่ใช่ผู้ที่ทำอะไรก็ไม่เคยผิด  ไม่ว่าสิ่งที่ทำนั้นจะค้านสายตาและสามัญสำนึกของผู้คนมากมายเพียงใดก็ตาม
    ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมตัวเลขสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19)ของประเทศไทย วันที่ 24 มิถุนายน 2564 จากศูนย์ข้อมูล COVID-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า 
        มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4,108 ราย
        สะสมระลอกที่สาม 203,784 ราย
        สะสมทั้งหมด 232,647 ราย
        ออกจากโรงพยาบาล 1,578 ราย
        สะสม 163,929 ราย
        เสียชีวิตเพิ่ม 31 ราย
        สะสมระลอกที่สาม 1,681 ราย
        สะสมทั้งหมด 1,775 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :