วันนี้ (24 มิถุนายน 2564) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า พร้อมรับฟังข้อเสนอจากอาจารย์แพทย์ถึงมาตรการล็อกดาวน์ กทม. เพื่อควบคุมโรคโควิด 19 ซึ่งจะมีคณะกรรมการและ ศบค.พิจารณาในทุกมิติ เพื่อใช้มาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เมื่อวานนี้ (23 มิถุนายน 2564) ได้หารือกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า พร้อมสนับสนุนทุกเรื่องในการควบคุมโรค ดูแล "ผู้ป่วยโควิด-19"
เช่นที่โรงพยาบาลบุษราคัมรองรับผู้ป่วยอาการสีเหลือง ถือว่าช่วยแบ่งเบาพื้นที่ กทม.ได้อย่างมาก จะสิ้นสุดสัญญาการเช่าสถานที่ ได้รายงานนายกรัฐมนตรีเพื่อหาสถานที่ภาคส่วนราชการต่างๆ ที่มีความเหมาะสมในการทำเป็นโรงพยาบาล ซึ่งนอกจากมีพื้นที่กว้างขวางแล้ว ระบบต้องเหมาะสมด้วย เช่น สถานีกลางบางซื่อ แม้มีพื้นที่ใหญ่แต่ระบบแอร์เชื่อมโยงกันทั้งหมด ไม่สามารถตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามได้
อย่างไรก็ตาม จะหารือกับประธานเมืองทองธานี เพื่อขอใช้สถานที่ทำโรงพยาบาลบุษราคัมต่ออีก 2-3 เดือน นายอนุทินกล่าวต่อว่า ขณะนี้การระบาดส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และอีก 2-3 จังหวัด การบริหารจัดการใช้ระบบเขตสุขภาพเข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือกัน ระดมทรัพยากรต่างๆ เข้ามาช่วยดูแลได้ จึงไม่อยากให้มองแค่เฉพาะบางจุด เพราะอาจคิดว่ามีความหนาแน่นและไม่เพียงพอ
เมื่อมองทั้งระบบสาธารณสุขยังบริหารจัดการได้ ยืนยันว่าระบบสาธารณสุขไม่มีวันล่มสลาย ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ระดมกำลังทั้งประเทศเข้ามาได้เหมือนโรงพยาบาลบุษราคัมที่ได้เปิดให้บริการในขณะนี้ ตอนนี้เราพยายามแก้ปัญหาในพื้นที่ก่อน เพื่อไม่ให้ไปถึงจุดนั้น โดยระหว่างนี้ต้องพยายามลดจำนวนผู้ติดเชื้อลง และขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดควบคุมคลัสเตอร์ต่างๆ ด้วยมาตรการ Bubble and Seal ที่ต้องห้ามเข้าออกอย่างจริงจัง ควบคุมคนไม่ให้มีการเดินทาง และกระทรวงสาธารณสุขจะแยกผู้ป่วยเข้ารักษาตามอาการ
“ส่วนเรื่องการเปิดประเทศเป็นเรื่องอีก 120 วันข้างหน้า ระหว่างนี้ต้องเตรียมความพร้อมทุกอย่าง เมื่อมีความพร้อมแล้ว จะมีการประชุมหารือกันอีกครั้ง เพื่อนำเสนอทั้งด้านสาธารณสุข ความมั่นคง เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว หากพิจารณาแล้วยังเปิดไม่ได้ก็คือเปิดไม่ได้ ไม่ใช่ยังไม่ทำอะไรแล้วบอกอย่าไปเปิด ต้องรอไปประเมินสถานการณ์อีกครั้ง” นายอนุทินกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง