หัวเมืองต่างจังหวัดยอดพุ่ง ‘ปรับแผน’ รับคลื่นคนติดเชื้อ

การระบาดเชื้อโควิด-19 ระดับวันละเฉียดหมื่นคนและกระจายทั่วประเทศ ท้าทายระบบสาธารณสุข ที่แบกรับผู้ป่วยปริ่มศักยภาพที่เบ่งเต็มที่แล้วโฆษกศบค.รายงาน การแพร่ระบาดโควิด-19 ประจำวันพุธที่ 14 กรกฎาคม 2564 ว่า ประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 59 ของโลก ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ 9,317 ราย เกือบทั้งหมดเป็นการติดเชื้อในประเทศ แยกเป็นกทม.และปริมณฑล 4,862 ราย 4 จังหวัดภาคใต้ 651 ราย  จังหวัดอื่น 67 จังหวัดอีก 3,667 ราย เรือนจำและที่ต้องขัง 129 ราย    
    

จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ 1-10 ราย มีจำนวน 10 จังหวัด มีรายงานผู้ติดเชื้อ 11-50 ราย มีจำนวน 30 จังหวัด ที่มีผู้ติดเชื้อ 51-100 ราย จำนวน 21 จังหวัดและมีผู้ติดเชื้อมาก กว่า 100 ราย มีจำนวน 16 จังหวัด ที่เพิ่มขึ้น 6 จังหวัด คือ ชลบุรี นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา มหาสารคาม ศรีสะเกษ และราชบุรี
    

ทั้งรับว่า การแพร่กระจายไปครบทุกจังหวัด ซึ่งจังหวัดที่มีการรายงานรับคนกลับบ้านเพื่อรักษาตัว เช่น จังหวัดร้อยเอ็ด จัดรถบัสรับคนไปรักษาคันหนึ่งกว่า 30 ราย โดยขณะนี้ในพื้นที่ต่างจังหวัดเริ่มจะเต็มศักยภาพ จึงต้องตรวจสอบจังหวัดปลายทางเพราะหลายจังหวัด ไม่สามารถรับผู้ป่วยกลับได้แล้ว
    
“ฐานเศรษฐกิจ” ตรวจสอบภาระการรับมือเชื้อโควิด-19 ระบาดของจังหวัดต่างๆ หลังคนแห่กลับภูมิลำเนา เมื่อรัฐบาลยกระดับมาตรการปิดงานงดการเดินทาง 6 จังหวัดเสี่ยงสูง เมื่อยอดผู้ติดเชื้อเร่งตัวใกล้แตะหลักหมื่นคน และคนป่วยเกือบเต็มศักยภาพของรพ.ในเขตแพร่ระบาด หลายจังหวัดเปิดรับผู้ติดเชื้อกลับภูมิลำเนา ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในแต่ละจังหวัดเร่งตัวขึ้น
     

นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าฯเชียงใหม่ เผยว่า เชียงใหม่มีศูนย์ประสานการขอเข้าจังหวัด สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 กลับมารักษาในภูมิลำเนา หากเป็นคนเชียงใหม่เรายินดีรับอยู่แล้ว แต่หากเป็นคนมีภูมิลำเนาจังหวัดอื่น ก็อยากให้พิจารณาไปที่จังหวัดของท่าน เนื่องจากผู้ป่วยของเชียงใหม่ก็เยอะอยู่แล้ว 
    

“ขณะนี้เรามีเตียงเพียงพอ ทั้งของรพ.รัฐและเอกชน รวมถึงรพ.สนาม ที่มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ 70 กว่าราย สามารถรองรับได้ 250 เตียง และเพิ่มได้เป็น 400 เตียง ที่ผ่านมาคนที่กลับมารักษาตัวที่เชียงใหม่จะไม่ค่อยแจ้ง ซึ่งมีเข้ามาทุกแทบทุกวัน รวมสะสมแล้ว 5-7 ราย ทำให้ต้องกักตัวคนที่ขับรถพาผู้ป่วยมาส่งออกจึงขอความร่วมมือให้ติดต่อเข้ามาก่อน เพื่อเตรียมการรองรับ”
     

ที่ตากแม้จะเกิดคลัสเตอร์โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า จนต้องสั่งปิดโรงงานและล็อกดาวน์ชุมชนในพื้นที่รอบข้างในอำเภอแม่สอด โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อในพื้นที่พุ่งสูงขึ้น นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า ตากมีความพร้อมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์ เตียงผู้ป่วย โครงการรับคนตากกลับบ้าน มียอดผู้ป่วยที่รพ.สนาม ม.เทคโนโลยีราชมงคลล้านนาตาก (มทร.ล้านนาตาก) แล้วรวม 25 คน 
     
ปัจจุบันโรงพยาบาลสนามในพื้นที่จังหวัดตาก มีด้วยกัน 4 รูปแบบ ได้แก่ โรงพยาบาลสนามองค์กร, Factory Isolation, Community Isolation และ Home Isolation มีเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด ทั้งสิ้น 1,490 เตียง ใช้ไป 1,082 เตียงคงเหลือ 408 เตียง จึงมีการพิจารณาปรับ Community Isolation ทุกแห่งให้เป็นโรงพยาบาลสนามไว้สำหรับรองรับผู้ป่วยหากมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

รวมถึงพิจารณาการขอขึ้นทะเบียนสถานที่กักกันประเภท State Quarantine (SQ) ด้วย จึงมั่นใจได้ โดยขอให้ติดต่อ “ศูนย์คนตากไม่ทิ้งกันจังหวัดตาก” หมายเลขโทร. 061-024-0676 (ในเวลาราชการ), และหากนอกเวลาราชการ โทร. 061-024-0677 ก่อน 
  

เช่นเดียวกับที่นครราชสีมา นายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์  นายแพทย์ สสจ.นครราชสีมา เผยว่า วันที่ 12 ก.ค. 2564  มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 147 รายสูงสุดในการระบาด ซึ่งนครราชสีมาปรับแผนรับทุกวัน  โดยเฉพาะเรื่องของการรับผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา และการเตรียมแผนไว้รองรับผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน
    

โดยในส่วนเตียงรพ.สนามที่มี 2,000 เตียง เหลือรองรับอีก 500 เตียง จึงเตรียมปรับแผนการแยกรักษาที่บ้าน (Home Isolation) เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลสนาม สำหรับบ้านที่พร้อม ภายใต้การติดตามดูแลโดยทีมแพทย์ ส่วนผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา เน้นรับจากจังหวัดโซนสีเหลืองและเขียวเป็นหลักเป็นผู้ป่วยอาการไม่มาก เพื่อเข้ารักษาหรือกักตัวในภูมิลำเนา โดยอบจ.นครราชสีมาเป็นผู้รับผิดชอบดูแล ขณะนี้จังหวัดนครราชสีมายังสามารถรับมือการระบาดเชื้อโควิด-19 ได้ 
    

ส่วนที่ลพบุรี นพ.ชนบท บัวหลวง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลพบุรี เผยว่า ตอนนี้ไม่สามารถรับผู้ติดเชื้อชาวลพบุรีกลับบ้านตามโครงการ “คนลพบุรีไม่ทิ้งกัน” ได้ เนื่องจากเกิดคลัสเตอร์โรงงานแปรรูปไก่ในพื้นที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนมาก โดยรพ.สนามทั้ง 5 แห่งเต็มหมด รวมถึงที่กักสังเกต (Local Quarantine) ก็เต็มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายที่กำลังเตรียมสถานที่สร้างรพ.สนามเพิ่มอยู่
     

ขณะนี้นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ. ลพบุรี ได้ให้มีการจัดทำแผนการกักรักษาที่บ้าน (HICI) ตั้งศูนย์ประสานงานทุกอำเภอ  และมีศูนย์พักคอย (community isolation) ในชุมชน สำหรับผู้ป่วยสีขาวคือ ผู้ที่ป่วยแต่ไม่มีอาการ ตอนนี้มีที่ ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม ซึ่งเป็นโมเดลและอีกหลายแห่งกำลังทำขึ้นมา  
    

แต่ละจังหวัดเร่งค้นสูตรการรับ มือตามทรัพยากรและความพร้อมของแต่ละพื้นที่ เพื่อรับคลื่นคนติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากการรับคนติดเชื้อกลับบ้านและการติดเชื้อภายในพื้นที่เองที่กำลังเร่งตัวขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยต้องลุ้นระทึกตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันไม่ต่างจากส่วนกลาง ว่านับแต่ 28 มิ.ย. ที่เริ่มสั่งปิดแคมป์จนมีแรงงานทะลักกลับบ้านตัวเลขการติดเชื้อมีแนวแน้ม “คุมอยู่”หรือไม่ ซึ่งต้องติดตามดูถึง 26 ก.ค. 2564 นี้ เพื่อใช้ในการวางมาตรการรับมือรอบต่อไป 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,697 วันที่ 18-21 กรกฎาคม พ.ศ.2564