สถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ในพื้นที่สมุทรสาคร ผู้ติดเชื้อรายใหม่กลับมาเร่งตัวเพิ่มขึ้น ในวันที่ 24 ก.ค. 2564 มีจำนวน 1,083 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาในโรงพยาบาลถึง 21,223 คน และจังหวัดสั่งให้จัดตั้งศูนย์พักคอยคนสาคร(CI) 33 แห่งทั่วจังหวัด ให้โรงงานมีคนงานเกิน 50 คนขึ้นไปตั้งที่กักกันอย่างต่ำ10 %ของคนงานภายใน 1 สัปดาห์ ไว้รับคลื่นผู้ติดเชื้อแล้ว
ภาคเอกชนสมุทรสาครชี้ การทำสงครามโลกกับโควิด-19 และการประกาศเปิดประเทศภายใน 120 วัน “รัฐบาลทิ้งสมุทรสาครไม่ได้” เพราะนี่คือจังหวัดเศรษฐกิจและพื้นที่ปริมณฑลสำคัญ ย้ำต้องเร่งจัดสรรวัคซีนมาช่วย หากปล่อยให้เกิดการระบาดใหม่ซ้ำ รับรองเจ๊งโดยทั่วหน้า “ถ้าที่นี่ปลอดภัย ความมั่นใจจะเกิดขึ้น” ฝาก 9 ข้อคิด และขออย่าปล่อยให้ผู้ว่าฯ เป็นผู้บัญชาเหตุการณ์ในพื้นที่อย่างไร้กระสุน
พ.ต.ท.สุรินทร์ ชัยพานิช ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ด้านสิ่งแวดล้อม และรองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วิกฤติเขื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ณ จังหวัดสมุทรสาคร ในช่วงปลายปี 2563 จนกระทั่งเข้ามาถึงกลางปี 2564 ต้องยอมรับความจริงว่า นี่คือการทำสงครามโลกกับโรคโควิด-19 ซึ่งจะรอดพ้นผ่านหรือมีชัยชนะจากสงครามครั้งนี้ได้ ต้องมีปัจจัยและยุทธศาสตร์ที่ต้องทำ ดังนี้ คือ
1.ขวัญและกำลังใจชองคนทั้งชาติต้องมีร่วมกัน
2.แต่ละจังหวัดจะต้องมีอิสรภาพที่จะบริหารพื้นที่ของตนเอง โดยให้สาธารณสุขจังหวัด เป็นแกนหลักหรือเป็นขุนพลแม่ทัพ
3.องค์กรเอกชนและภาคประชาสังคม ไม่ควรมีหน้าที่แสดงความเห็นนอกเหนือพื้นที่ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการสาธารณสุข
4.การส่งเสริมนโยบายการเปิดประเทศภายใน 120 วันของรัฐบาล จำเป็นต้องรวมถึงการทำให้จังหวัดสมุทรสาครต้องปลอดภัย ต้องปลอดจากโรคฯ และต้องปลอดจากความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกับกลุ่มคนฐานล่าง ซึ่งต้องมีความหวังที่ดีกว่าปัจจุบัน
5.คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครต้องมีข้อมูล รวมถึงต้องมีการวิเคราะห์ถึงอนาคตการกลายพันธุ์ของโรคโควิด-19 แล้วสร้างความเข้าใจให้ประชาชนเชื่อมั่น ต่อการได้รับภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีน
6. การที่จังหวัดสมุทรสาครเป็นต้นแบบในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคฯ ในรอบที่ 2 คือสิ่งบอกเหตุว่า ต้องเร่งฉีดวัคซีนให้จังหวัดสมุทรสาครในอันดับแรกของจังหวัดที่อยู่ติดกับกทม. และต้องพร้อมที่จะให้เปิดจังหวัดนี้ได้อย่างปลอดภัย เพื่อเปิดธุรกิจการค้า เช่นเดียวกับการเปิดตลาดการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
7.รัฐบาลไม่อาจจะทิ้งจังหวัดสมุทรสาครไปได้ เพราะจังหวัดสมุทรสาครจะเป็นตัวบ่งชี้ที่แสดงให้เห็นว่า จังหวัดในเขตพื้นที่ปริมณฑล ก็มีความปลอดภัยเกิดขึ้นแล้วจริง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อถือว่าการเปิดประเทศภายในเวลา 120 วัน จะประสบความสำเร็จได้จริงตามนโยบายที่ประกาศไว้
8.จังหวัดสมุทรสาครสามารถผ่านวิกฤติการระบาดในรอบที่ 2 ของโรคโควิด-19 มาได้โดยไม่เกิดความเสียหายมากนัก กระทั่งเมื่อมาถึงการระบาดรอบที่ 3 ทุกคนก็มีความหวังว่าสมุทรสาครจะสามารถเปิดจังหวัดได้ เพื่อเป็นจังหวัดที่จะได้ร่วมอยู่ในขบวนของการเตรียมพร้อมที่จะเปิดประเทศภายในเวลา 120 วันดังกล่าว
ซึ่งทุกฝ่ายต่างมีกำลังใจที่จะเห็นจังหวัดสมุทรสาครเป็นต้นแบบความสำเร็จแห่งแรกของจังหวัดที่มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจ ระดับต้นๆ ของประเทศ จึงไม่น่าที่จะปล่อยทิ้งให้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เกิดซ้ำเป็นรอบใหม่ขึ้นมาอีก อย่างที่เกิดขึ้นกับ กทม. และจังหวัดปริมณฑลอื่นๆโดยรอบ
9.นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นเสมือนผู้นำทัพในการทำสงครามกับโรคโควิด-19 ครั้งนี้ แต่เมื่อไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนมาให้จากรัฐบาล ก็คงอยู่ในสภาพไม่ต่างไปจากผู้บัญชาการรบที่ปราศจากกระสุน โดยมีแต่เพียงกำลังใจที่ส่งมาให้ไปวัน ๆ เท่านั้น