ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว มานพ พิทักษ์ภากร โดยระบุถึงประสิทธิภาพวัคซีนโควิด mRNA ว่า
วันนี้ New England Journal of Medicine ตีพิมพ์ผลการศึกษาที่เป็น real world data ของ HEROES-RECOVER network ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในเครือข่ายโรงพยาบาล 6 รัฐในสหรัฐอเมริกาได้แก่ Arizona Florida Minnesota Oregon Texas และ Utah รวมทั้งสิ้นเกือบ 4 พันคน
โดยอาสาสมัครส่วนใหญ่ได้รับวัคซีน Pfizer หรือ Moderna อย่างใดอย่างหนึ่ง จากนั้นทำการติดตามบุคลากรทั้งกลุ่มเป็นเวลาเกือบ 5 เดือน โดยทุกรายจะได้รับการทำ nasal swab (แยงจมูก) เพื่อตรวจหาเชื้อ SARS-CoV-2 โดยวิธี RT-PCR สัปดาห์ละครั้ง
ผลการศึกษาพบว่า mRNA vaccine สามารถป้องกันการติดเชื้อ ทั้งแบบที่มีและไม่มีอาการได้ดีมาก โดยกลุ่มที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มมีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อสูงถึง 91% และในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนเพียงเข็มเดียว ก็ยังมีประสิทธิผลสูงถึง 81%
นอกจากนี้ในกลุ่มที่ติดเชื้อ พบว่าอาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อ ตรวจพบปริมาณเชื้อ SARS-CoV-2 ต่ำกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนถึง 40% ผู้ติดเชื้อมีไข้น้อยกว่า และมีอาการหายเร็วขึ้นถึง 6 วันเศษ
การศึกษานี้เป็นอีกข้อพิสูจน์ว่า วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงมาก นอกจากจะกันป่วย ป่วยหนัก และกันตายแล้ว ยังสามารถ "กันติด" ได้ด้วย เป็นหลักฐานที่พบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ช่วยตอกย้ำคุณภาพของวัคซีนทั้งสองชนิดได้เป็นอย่างดี
คุณสมบัติกันติดได้ เป็นสิ่งที่เราอยากได้มากที่สุดจากวัคซีน เพราะถ้าเราไม่ติดเชื้อ เราก็จะไม่ป่วย ป่วยหนัก หรือเสียชีวิต และก็จะไม่แพร่เชื้อให้คนรอบข้างด้วย
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิ๊ก
ในมุมมองทางการแพทย์ ขณะนี้ประเทศไทยจำนวนบุคลากรจำกัด สถานที่จำเป็นในการรองรับผู้ป่วยโดยเฉพาะผู้ป่วยวิกฤตมีจำกัด ทางบุคลากรทางการแพทย์ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเร่งการนำเข้า mRNA วัคซีน ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่าเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง
ทางกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้ามีการเรียกร้องให้รัฐบาล รวมถึงองค์การเภสัชกรรมมีการนำเข้า mRNA vaccine (Pfizer และ Moderna) เข้ามาเป็นการเร่งด่วน เพื่อทำการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนต่อไป
โดยเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. สมาคมโรคติดเชื้อ ฯ ได้เผยแพร่เอกสาร ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ศบค. ลงนามโดย ผศ.นายแพทย์กำธร มาลาธรรม นายกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้รัฐบาลจัดหาวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี mRNA และวัคซีนชนิดที่มีไวรัสเป็นพาหะให้มากขึ้นแทนสัดส่วนการนำเข้าวัคซีนชนิดเชื้อตายอย่าง Sinovac ที่ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาหรือสายพันธุ์อินเดีย ที่จะกลายเป็นเชื้อที่ระบาดวงกว้างที่สุดทั่วโลก
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ครอบคลุมโดยเร็วที่สุด วางแผนจัดหาวัคซีนรุ่นต่อไปที่สามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ๆ ได้ และส่งเสริมนักวิจัยและอุตสาหกรรมยาในประเทศเพื่อผลิตวัคซีนคุณภาพสูงได้เองด้วย