วันนี้(5 ก.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ รายงานตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิดของจังหวัดเชียงใหม่ ระลอกเดือนเมษายน 2564 มียอดสะสม 4,209 ราย ล่าสุด พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่อีก 17 ราย ซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบเดือน
หลังจากก่อนหน้านี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้มีอัตราตัวเลขการติดเชื้อลดลง โดยส่วนใหญ่พบว่าเป็นเชื้อโควิดนำเข้ามาจากพื้นที่เสี่ยงสูง และเข้ามากระจายต่อในครอบครัว ทำให้ทางฝ่ายปกครองได้มีคำสั่งให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน รวมถึง อสม.ในทุกพื้นที่ได้เข้าเอ็กซ์เรย์หอพัก อพาร์เม้นท์ และ โรงแรม ที่อาจจะมีประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงเข้ามา แต่ไม่ผ่านการคัดกรอง และไม่มีการกักตัว
นายวรพงษ์ หมู่ชาวใต้ เลขาธิการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว 8 จังหวัดภาคเหนือ Northern Tourism Development (N8) กล่าวว่า ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่ คงจะมีการนำเสนอในประเด็นของการคุมเข้มการเดินทางจากพื้นที่เสี่ยงสูงเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพบว่ามีหลุดรอดเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดตัวเลขของการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้น
จึงอยากให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้ยกระดับการป้องกันอย่างเข้มงวด ซึ่งขณะนี้พบว่า มีการหลีกเลี่ยงการคัดกรอง รวมถึงคนติดเชื้อในพื้นที่เสี่ยงสูง และตั้งใจเดินทางเข้ามารักษาตัวในพื้นที่
ด้าน นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า วัคซีนยังมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวลหากเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ จึงอยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการกระบวนการจัดสรรวัคซีนเข้ามาให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด
รวมไปถึงการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามาถึง “วัคซีนทางเลือก” มากขึ้น ซึ่งขณะนี้พบว่า มีประชาชนชาวเชียงใหม่ ได้ออกมาจองสิทธิ์ “วัคซีนทางเลือก กันมากขึ้น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง
รายงานข่าวแจ้งว่า การบริหารจัดการวัคซีนของจังหวัดเชียงใหม่ ณ วันที่ 5 ก.ค.2564 มีการฉีดสะสมไปเพียง 145,746 คน จากเป้าหมายที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ของจังหวัดเชียงใหม่ 1,200,000 คน