กทม. ได้เปิด “ศูนย์พักคอย” 17 แห่ง ในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต รองรับผู้ป่วย 2,560 ราย และจะจัดตั้งศูนย์พักคอยใน กทม. เพื่อรองรับผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด โดยตั้งเป้าหมายไว้ 20 แห่ง เบื้องต้นได้เปิดรับผู้ป่วยเพิ่มได้เป็น 5 แห่ง ในวันที่ 6 ก.ค. 64
สำหรับศูนย์พักคอยในแต่ละกลุ่มเขต จะมี รพ.สังกัด กทม. ดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้น ดังนี้
- กรุงเทพเหนือ (รพ.กลาง ดูแล) รวม 4 แห่ง 610 เตียง
1. เขตบางเขน ศูนย์กีฬารามอินทรา 150 เตียง
2. เขตจตุจักร ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ 190 เตียง
3. เขตจตุจักร ศูนย์สร้างสุขทุกวัย เขตจตุจักร 120 เตียง
4. เขตดอนเมือง ศูนย์สร้างสุขทุกวัย เขตดอนเมือง 150 เตียง
- กรุงเทพกลาง (รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ดูแล) รวม 2 แห่ง 320 เตียง
5. เขตพระนคร วัดอินทรวิหาร (อาคารปฏิบัติธรรม) 170 เตียง
6. เขตดินแดง ศูนย์กีฬาเวสน์ 2 (ศูนย์เยาวชนฯ ไทย- ญี่ปุ่น) 150 เตียง
- กรุงเทพใต้ (รพ.สิรินธร ดูแล) รวม 2 แห่ง 420 เตียง
7. เขตคลองเตย วัดสะพาน 250 เตียง (ศูนย์ฯ แรกต้นแบบ)
8. เขตสวนหลวง ศูนย์ปฏิบัติธรรม วัดปากบ่อ 170 เตียง
- กรุงเทพตะวันออก (รพ.เวชการุณย์รัศมิ์ ดูแล) รวม 4 แห่ง 620 เตียง
9. เขตหนองจอก ค่ายลูกเสือกรุงเทพวันวาน 200 เตียง
10. เขตลาดกระบัง ร้านอาหาร Boom Boom 120 เตียง
11. เขตสะพานสูง ศูนย์สร้างสุขทุกวัย เขตสะพานสูง 150 เตียง
12. เขตบางกะปิ ศูนย์สร้างสุขทุกวัย เขตบางกะปิ 150 เตียง
- กรุงธนเหนือ (รพ.ตากสิน ดูแล) รวม 2 แห่ง 190 เตียง
13. เขตบางกอกน้อย วัดศรีสุดาราม (รพ.ราชพิพัฒน์) 90 เตียง
14. เขตทวีวัฒนา ศูนย์สร้างสุขทุกวัย (รพ.ตากสิน) 100 เตียง
- กรุงธนใต้ (รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ดูแล) รวม 3 แห่ง 400 เตียง
15. เขตบางแค ศูนย์สร้างสุขทุกวัย (เรืองสอน) 150 เตียง
16. เขตบางขุนเทียน ศูนย์สร้างสุขทุกวัย (พระราม2 ซ.69) 100 เตียง
17. เขตภาษีเจริญ วัดนิมมานรดี 150 เตียง
สำหรับจัดตั้ง “ศูนย์พักคอย” ใช้เป็นสถานที่ให้ผู้ป่วยโควิดสีเขียวอยู่ระหว่างการรอส่งต่อโรงพยาบาล และใช้เป็นสถานที่สำหรับดูแล กลุ่มคนที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษระหว่างรอเตียง เช่น เด็กที่พ่อแม่ติดเชื้อที่ไม่มีคนในครอบครัวดูแล
ทั้งนี้ การดูแลผู้ป่วยโควิดที่ศูนย์พักคอยทุกแห่ง จะมีเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) คอยดูแลผู้ป่วยประเมินอาการอย่างใกล้ชิด โดยมีอุปกรณ์ที่จำเป็น ยาและเครื่องมือทางการแพทย์ดูแลอาการผู้ป่วยโควิด ได้แก่
1. เครื่องวัดค่าออกซิเจนปลายนิ้ว ไว้สำหรับวัดค่าออกซิเจนในเลือด เพราะคนไข้ที่ติดเชื้อโควิดสีเขียวจำนวนมากที่ไม่แสดงอาการเปลี่ยนเป็นผู้ป่วยเหลืองได้เร็ว แต่หากมีการวัดค่าออกซิเจนในระหว่างที่รอส่ง รพ. และพบว่ามีค่าต่ำกว่าปกติมาก (ต่ำกว่า 95%) จะได้รีบส่งเข้ารักษาใน รพ.
2. เครื่องออกซิเจน ใช้สำหรับช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีออกซิเจนต่ำกว่า 95% ระหว่างการรอส่งเข้าโรงพยาบาล เพราะผู้ป่วยโควิดเขียว หากมีอาการขึ้นมาจะเปลี่ยนเป็นผู้ป่วยเหลืองได้เร็วมากขึ้น
ส่วนกรณีที่ผู้ป่วยสมัครใจแยกกักตัวในบ้านที่พักอาศัยของตนเอง หรือ Home Isolation ระหว่างรอเตียงเข้ารักษาในโรงพยาบาล จะต้องผ่านการพิจารณาวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสามารถรักษาตัวที่บ้านได้ โดยจะต้องเป็นผู้ป่วยโควิดสีเขียวที่ไม่มีอาการ ไม่มีภาวะอ้วน ไม่มีโรคประจำตัว และไม่เป็นผู้สูงอายุ
โดยระหว่างการแยกกักตัวที่บ้าน จะมีเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) คอยดูแลผู้ป่วยประเมินอาการอย่างใกล้ชิด มีการตรวจวัดค่าออกซิเจน และให้ยาตามอาการ ซึ่งถ้าผู้ป่วยมีอาการ เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองจะรีบนำส่งเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้อย่างปลอดภัย