8 ก.ค. 2564 - ท่ามกลางกระแสเรียกร้อง วัคซีนทางเลือก และวัคซีนโควิด- 19 ชนิด mRNA อย่าง ไฟเซอร์ และ โมเดอร์น่า ของสังคม จนมีแฮชแท็ก #ฟ้องรัฐบาลฆาตกร ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์วันนี้ ขณะ พรรคไทยสร้างไทย ล่ารายชื่อเตรียมฟ้องรัฐบาล ข้อหา บริหารสถานการณ์โควิด19 ในไทยผิดพลาด อีกทั้ง ระบุ การจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มอีก 10.9 ล้านโดส ที่ไม่สามารถ “ป้องกัน” การติดเชื้อโควิด-19 ได้นั้น มีความผิดขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 วรรคสาม ที่ระบุไว้ว่า “บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย”
ล่าสุด น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการเตรียมฟ้องรัฐบาลเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้มีการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติม โดยอ้างว่าการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะวัคซีนที่สั่งซื้อไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด19 สายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดได้นั้น
ล่าสุดองค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่ข้อมูลเพื่อย้ำว่า วัคซีนที่ได้รับการรับรองและขึ้นทะเบียนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยประเทศไทยมีวัคซีน 3 ชนิดที่ให้บริการไปแล้ว ได้แก่ แอสตราเซเนกา ซิโนฟาร์ม และ ซิโนแวค
อีกทั้ง การบริหารจัดการสถานการณ์โควิด 19 โดยเฉพาะแผนการจัดหาวัคซีน ประกอบไปด้วยคณะแพทย์ผู้เชียวชาญระดับประเทศ และมีงานวิชาการรองรับ เป็นไปตามกฎหมายทุกขั้นตอน สอดคล้องตามรัฐธรรมนูญ และทำตามหลักภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ขององค์การอนามัยโรค (WHO)
ส่วนความกังวลว่าวัคซีนซิโนแวคที่มีการสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องอาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อที่กำลังแพร่ระบาดได้นั้น ปัจจุบันข้อมูลทางการแพทย์พบว่า ยังไม่มีวัคซีนชนิดใดที่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด19 สายพันธุ์เดลต้าได้ 100% แม้แต่วัคซีนชนิด mRNA แต่ทุกชนิดรวมทั้งเทคโนโลยีเชื้อตาย สามารถลดการป่วยหนักและการเสียชีวิตได้
ดังนั้น ในระหว่างรอส่งมอบวัคซีน mRNA ในช่วงไตรมาสที่ 4 อาทิ วัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดสตามแผนวัคซีนหลัก และโมเดอร์นาซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือก รัฐบาลจึงเร่งจัดหาและฉีดวัคซีนให้ประชาชนในวงกว้างให้มากที่สุดเพื่อลดการป่วยหนักและการเสียชีวิต ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ซึ่งแผนการดังกล่าวภาครัฐได้ดำเนินการและสื่อสารมาอย่างต่อเนื่อง มิได้เพิ่งอนุมัติจัดหาในการประชุม ครม.ที่ผ่านมา