นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีมติให้ใช้ชุดตรวจเทสต์หาเชื้อโควิด-19 แรพบิดเทสต์ ( Rapid Antigen test ) แต่ยังคงให้ใช้ในสถานพยาบาลเท่านั้น ส่วนการที่จะให้ประชาชนตรวจเองที่บ้านอาจจะต้องใช้ระยะเวลาถัดไป เนื่องจากขณะนี้ สถานการณ์ระบาดโควิด-19 รุนแรงมากขึ้น ทั้งในแง่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้เสียชีวิตรายวันที่พุ่งสูงขึ้น พร้อมกันนี้ ที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุขยังเสนอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ศบค. ยกระดับมาตรการคุมหรือล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดง กทม.และอีก 9 จังหวัด
ที่ประชุมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ พิจารณาวาระสำคัญสถานการณ์โควิดที่ยังคงพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงขณะนี้มีการแพร่ระบาดไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อตัวเลขสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ เท่ากับว่ามีการติดเชื้อเป็นจำนวนมากมาตลอด และพบปัญหาการรอตรวจโควิดมากขึ้น และมีความต้องการตรวจเพิ่มขึ้นและมีการรับผู้ป่วยเข้าไปสถานพยาบาลเป็นจำนวนมากด้วย
ที่ประชุมจึงมีมติให้ใช้ Rapid Antigen test เข้ามาสนับสนุนการตรวจ ในสถานพยาบาล ที่มีการขึ้นทะเบียนไว้ให้สามารถใช้ได้เลย จากก่อนหน้านี้ ใช้การ swab ด้วยวิธี rt -pcr ซึ่งใช้ระยะเวลาการตรวจรอผลนาน 3-5 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้น หากมีผู้เข้าคิวตรวจจำนวนมาก ทั้งนี้ การตรวจ Rabbit antigen Test จะเป็นการตรวจที่รู้ผลเร็ว เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยในการเข้าขอตรวจ แต่หากพบผลบวกก็จะต้องทำการยืนยันผลด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้ง
การใช้ชุดตรวจ Rapid Antigen test เป็นที่ถกเถียงกันมาหลายวาระ ว่ากระทรวงสาธารณสุขเป็นกลไกสำคัญในการอนุมัติ อนุญาติให้ใช้ตรวจได้ โดยมีการเรียกร้องให้นำมาใช้ในการตรวจเพิ่มขึ้น แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงสาธารณสุข ทั้งที่เครื่องมือนี้ในต่างประเทศมีชุดตรวจแบบนี้วางขายในซูปเปอร์มาร์เก็ตและประชาชนทั่วไปสามารถหาซื้อมาตรวจได้ด้วยตัวเอง มีผลความแม่นยำสูงถึง 90 % ในการตรวจหาเชื้อ