นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ในสัปดาห์หน้า ตนจะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมจัดตั้งกองทุนเสริมสภาพคล่องตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน (Corporate Bond Stabilization Fund : BSF)วงเงิน 400,000 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำรองชั่วคราวสำหรับเข้าไปซื้อตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทที่มีคุณภาพดีมี Rating อย่างน้อยต้องอยู่ในระดับ Investment grade โดยอยากให้มีการทบทวนแนวคิดการช่วยเหลือสภาพคล่องภาคเอกชนที่ออกหุ้นกู้ โดยเฉพาะให้ความช่วยเหลือภาคเอกชนที่ออกหุ้นกู้ในระดับที่ต่ำกว่า Investment grade
"เพื่อนๆในแวดวงธุรกิจทั้งอสังหาริมทรัพย์ พลังงาน ก็ดีฝากถามกันมา โดยเห็นว่าธปท.ควรขยายครอบคลุมการดูแลสภาพคล่องไปยังกลุ่มที่ต่ำกว่า Investment grade หรือตั้งแต่ระดับ BBB- ลงมา ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากกว่า ขณะที่กลุ่มหุ้นกู้ที่เป็นระดับ Investment grade ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาในเรื่องการระดมทุนและมีสถาบันการเงินให้การสนับสนุนอยู่แล้ว อาทิบริษัทปูนซิเมนต์ไทย หรือ บริษัทในกลุ่มสื่อสารก็ดี ไม่ได้อยู่ในข่ายที่่น่ากังวล และหากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีปัญหาก็ย่อมส่งผลต่อระบบโดยรวมอยู่แล้ว" นายชูชาติ กล่าว พร้อมย้ำว่า
ในส่วนของ บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล ไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องการระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ เนื่องจากอยู่ในระดับ Investment grade " BBB+" โดยเมื่อไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทได้ออกหุ้นกู้ 3,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้จองซื้อมากถึง 6 เท่าของจำนวนที่ออกขาย และในครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้ไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท เพื่อรองรับหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอน ( Rollover )ในไตรมาส 3 และ 4 ไตรมาสละ 3,000 ล้านบาท โดยต้องรอให้สถานการณ์ผ่านพ้นช่วงล็อกดาวน์ คาดว่าครึ่งปีหลังน่าจะคลีคลายได้