วันที่ 4 พ.ค. 2563 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ประกาศว่าพร้อมจะโอนเงินบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบโควิด -19 ให้กับเกษตรกร 10 ล้านราย รายละ 5,000 บาทเป็นเวลา 3 เดือน รวมวงเงิน 150,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มทยอยโอนได้ตั้งแต่ 15 พ.ค.นี้ ประมาณ 1 ล้านคนต่อวัน และจะโอนเงินเข้าบัญชีโดยตรงทั้งบัญชีเงินฝากที่มีกับ ธ.ก.ส. โดยไม่ต้องมาเปิดบัญชีใหม่ หรือบัญชีที่มีกับธนาคารอื่น
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่าตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2563 ที่เห็นชอบให้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) โดยจ่ายเงินให้แก่ครัวเรือนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับหน่วยงานของรัฐ รายละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พ.ค. – ก.ค. 63) จำนวน 10 ล้านราย วงเงินงบประมาณจำนวน 150,000 ล้านบาท
สำหรับขั้นตอนการจ่ายเงิน ธ.ก.ส. จะรับข้อมูลผู้ขึ้นทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบแล้วจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ในกรณีเกษตรกรมีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. แล้ว สามารถใช้บัญชีเงินฝากเดิมได้ ส่วนเกษตรกรที่ไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. สามารถแจ้งบัญชีเงินฝากที่มีอยู่กับธนาคารใดก็ได้ ผ่านเว็บไซต์ ของ ธ.ก.ส. ได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
หลังจากระบบประมวลข้อมูลและตรวจสอบบัญชีเงินฝากของเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรการ ซึ่งจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับความช่วยเหลือในมาตรการ“เราไม่ทิ้งกัน”แล้ว เมื่อ ธ.ก.ส. ได้รับเงินจากกระทรวงการคลัง จะรีบดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรต่อไป โดยจะกระจายการโอนครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ประมาณวันละ 1 ล้านราย คาดเริ่มทยอยโอนเงินได้ตั้งแต่วันที่.เป็นต้นไป
“โครงการเงินบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว ธ.ก.ส. จะเร่งดำเนินการอย่างเคร่งครัด ซึ่งนอกจากเกษตรกรไม่จำเป็นต้องมีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. แล้ว ยังสามารถใช้บัตร ATM ของ ธ.ก.ส. ถอนเงินจากตู้ ATM ของทุกธนาคาร หรือใช้โทรศัพท์มือถือที่มีแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ถอนเงินโดยไม่ใช้บัตร ATM ที่ตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ได้อีกด้วย ” นายอภิรมย์ กล่าว