ระหว่างรอศาลล้มละลายกลางนัดไต่สวน บมจ.การบินไทย ในวันที่ 17สิงหาคม 2563 เพื่อพิจารณาถึงโอกาสที่จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการนั้น ล่าสุด นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ตอบข้อถามของสื่อมวลชน โดยระบุว่า บมจ.การบินไทยนั้นมีประเด็นจะต้องปรับโครงสร้างทางการเงิน ซึ่งกรุงไทยเป็นสถาบันการเงินที่อำนวยสินเชื่อตามงบดุลของบมจ.การบินไทยในปีที่ผ่านมามูลหนี้กว่า 6,000ล้านบาท และธนาคารได้ทยอยกันสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญมาบ้างแล้ว โดยไตรมาสที่สองของปีนี้จะต้องตั้งสำรองฯเต็ม 100%โดยมีเงินรายได้จากการแก้ไขหนี้เข้ามาช่วยในการกันสำรองฯ สำหรับแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อเพิ่มเติมให้กับบมจ.การบินไทยนั้นก็มีโอกาส เพราะธนาคารต้องการลูกค้าที่มีคุณภาพ โดยที่การบินไทยยังเป็นสายการบินแห่งชาติ เพราะฉะนั้นทุกคนอยากเห็นการบินไทยกลับมาแข็งแรง แต่ต้องพิจารณางบดุลและแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทด้วย ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามขั้นตอนหรือกลไกของกฎหมายตามที่ทุกคนรับทราบแล้ว
ต่อข้อถามความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือลูกค้านั้น ตัวเลขปรับโครงสร้างหนี้ลูกค้ารายย่อย กับรายกลางเกือบ 3แสนล้านบาท และรายใหญ่อีก 1.5แสนล้านบาท ซึ่งการที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ประคองทั้งระบบจะทำให้ธนาคารผ่านตรงนี้ไปได้ภายใน 1ปี โดยสามารถควบคุมหนี้เอ็นพีแอลทั้งระบบให้อยู่ที่ 7-9% ขณะที่ทั้งระบบธนาคารจะมีเงินกองทุนขั้นที่หนึ่งจะสามารถรองรับเอ็นพีแอลได้ประมาณ 10-11%โดยต้องให้เศรษฐกิจฟื้นกลับมาให้เร็ว แต่ต้องระมัดระวัง เพราะอนาคตยังตอบไม่ได้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นกลับมาเร็วแค่ไหน และธนาคารอาจต้องทยอยตั้งสำรองเสริมควบคู่กันไปด้วย
“สิ่งที่เราเห็นทางการเองพยายามจะเปิดเมือง โดยที่ไม่ต้องกลับไปปิดเมืองอีกรอบ เพราะถ้าปิดเมืองอีกก็เหนื่อย เพราะการที่รัฐต้องเข้ามาสนับสนุนงบประมาณต่างๆ ทรัพยากรประเทศก็มีจำกัด ขณะที่แบงก์ต้องปรับโครงสร้างหนี้แบบโปรแอคทีฟ เพราะโอกาสที่ลูกค้าจะตกชั้นมีโอกาสเป็นไปได้สูง และต้องมีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจของลูกหนี้เพื่อให้สามารถปฎิรูปรูปแบบการทำธุรกิจของลูกหนี้”