หลังจากกระทรวงการคลังได้ออก พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่น “เราไม่ทิ้งกัน” วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี และ 10 ปี ซึ่งซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท สูงสุด 2 ล้านบาท เพื่อระดมทุนและนำไปบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงเพื่อแก้ไขปัญหาและ ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ตามแผนโครงการของรัฐบาล ภายใต้ พ.ร.ก.เงินกู้ 1ล้านล้านบาท ซึ่งขายหมดเกลี้ยงในพริบตา
ล่าสุดนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัว “วอลเล็ต สบม.” หรือ วอลเล็ตสะสมบอนด์มั่งคั่ง เพื่อรองรับการซื้อขายพันธบัตรแบบดิจิทัล ครั้งแรกของประเทศไทย
นายอุตตมกล่าวว่า “วอลเล็ต สบม.”หรือ วอลเล็ตสะสมบอนด์มั่งคั่ง มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) และเข้าถึง พันธบัตรออมทรัพย์ ได้ง่าย สะดวกสบาย และเท่าเทียมกัน โดยเป็นโครงการนำร่องที่นำเทคโนโลยีมาใช้จำหน่าย พันธบัตรออมทรัพย์ ผ่านกระเป๋าตังค์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ซึ่งเป็นการต่อยอด แอปพลิเคชัน เป๋าตัง
ทั้งนี้ได้ออกแบบโครงสร้างใหม่ให้เป็นระบบการเงินแบบเปิด สามารถรองรับวอลเล็ตได้หลายตัวพร้อมๆ กัน และเป็นการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยี Blockchain ภายใต้โครงการ MOF Blockchain ที่ได้ริ่เริมพัฒนาตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนระบบการเงินในโลกแห่งอนาคตที่ต้องคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ ความรวดเร็ว ความโปร่งใส และลดโครงสร้างต้นทุน ผ่านการลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนและไม่จำเป็นออกไป
“การเปิดตัวการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มทางการเงินร่วมกันของประเทศในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้พันธบัตรออมทรัพย์เป็นรูปแบบการลงทุนตามเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างแท้จริง (Technology-wise) ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพระบบงานของภาครัฐ ปรับลดกระบวนงานภาครัฐ ลดความยุ่งยากในการติดต่อกับตัวแทนจำหน่าย รวมถึงการใช้ e-Document เพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับพันธบัตรออมทรัพย์”
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร กรุงไทยกล่าวว่า กรุงไทยได้พัฒนาช่องทางการซื้อขาย พันธบัตรด้วยวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่จะได้เห็นการซื้อขายพันธบัตรผ่านช่องทางดิจิทัล โดยได้ออกแบบแอปพลิเคชันเป๋าตัง ภายใต้โครงสร้างใหม่ เพื่อให้เป็นระบบการเงินแบบเปิด สามารถรองรับวอลเล็ตได้หลายตัวพร้อมๆกัน และยังนำ Blokchain มาประยุกต์ออกแบบใหม่ เพื่อสามารถรองรับการเงินในโลกแห่งอนาคต
“วอลเล็ต สบม.นี้ ได้ออกแบบการซื้อขายพันธบัตรให้เป็นแบบรวมศูนย์ ทำให้การจำหน่ายมีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถซื้อขายได้แบบ Real Time ซึ่งผู้ขายจะมีข้อมูลผลลัพธ์การขายเป็นรายนาที ขณะที่ผู้ซื้อเห็นข้อมูลของเงินและพันธบัตรในวอลเล็ตเดียวกัน และข้อมูลการถือครองจะแสดงให้เห็นในวอลเล็ตทันที ไม่ต้องรอ 15 วันเหมือนที่ผ่านมา”
นอกจากนั้นพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นวอลเล็ต สบม.ยังมีเป้าหมายหลักที่จะส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงพันธบัตรได้อย่างเท่าเทียมกัน จึงเป็นครั้งแรกที่พันธบัตรออมทรัพย์มีหน่วยลงทุนขนาดเล็กเพียงหน่วยละ 1 บาท โดยลงทุนขั้นต่ำ 100 บาท และเพิ่มขึ้นครั้งละ 100 บาท แต่ไม่เกิน 500,000 บาท จำหน่ายให้กับบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการออมสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ สร้างนิสัยการออมแก่กลุ่มเยาวชนด้วย
ผู้สนใจซื้อพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นวอลเล็ต สบม. กรณีที่มี แอปพลิเคชั่นเป๋าตัง อยู่แล้ว เพียงสมัครวอลเล็ต สบม. และลงทะเบียนยอมรับเงื่อนไข สามารถใช้บริการได้ทันที สำหรับผู้ที่ยังไม่มีแอปฯ เป๋าตัง สามารถดาวน์โหลดแอปฯ ผ่านแอปสโตร์และกูเกิ้ลสโตร์ เลือกสมัครวอลเล็ต สบม. ยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า แล้วกรอกข้อมูลส่วนบุคคล
จากนั้นใช้งานวอลเล็ต สบม. ได้ทันทีเช่นกัน โดยจะได้รับดอกเบี้ยเข้าวอลเล็ต ปีละ 2 ครั้ง และเมื่อพันธบัตร ครบกำหนดอายุ 3 ปี จะได้รับเงินต้นคืนเข้าวอลเล็ต นอกจากนี้ วอลเล็ต สบม. ยังสามารถดูข้อมูลการซื้อ ตรวจสอบประวัติการซื้อ และดาวน์โหลดเอกสารต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชันได้อีกด้วย
ทั้งนี้ พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่น วอลเล็ต สบม. วงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาท จะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 24 มิถุนายน 2563 เวลา 8.30 น. อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.70%ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยปีละ 2 งวด ในวันที่ 24 ธันวาคม และ 24 มิถุนายนของทุกปี ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลด ลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านวอลเล็ต สบม. ได้ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป