นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า คณะกรรมการกลั่นกรองได้พิจารณาโครงการใช้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงิน 400,000 ล้านบาท (คณะกรรมการกลั่นกรอง ฟื้นฟูเศรษฐกิจ) และสั่งให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ทบทวนรายละเอียดการจัดตั้ง กองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็กที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน วงเงิน 50,000 ล้านบาทเพิ่มเติม โดยเฉพาะการช่วยเหลือให้ครอบคลุมถึงกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ที่เป็นหนี้เสียด้วย ซึ่ง สสว. อยู่ระหว่างปรับปรุงรายละเอียดและเงื่อนไขในการสนับสนุนแหล่งเงินทุนให้กับ เอสเอ็มอี ให้ครอบคลุมมากขึ้น
ทั้งนี้ ภายหลังปรับปรุงรายละเอียดแล้วเสร็จ จะเสนอให้ คณะกรรมการกลั่นกรองฯ พิจารณาภายในสัปดาห์หน้า และหากไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในสัปดาห์ต่อไป ซึ่งกองทุนฯ ดังกล่าว จะเข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับ เอสเอ็มอี และการจ้างงานได้ เนื่องจากปัจจุบัน เอสเอ็มอี มีการจ้างงานสูงถึง 16 ล้านคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“สสว.” ผนึก "มรภ.สวนสุนันทา" ติดปีก “SMEs” บุกตลาดออนไลน์จีน
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ ได้มอบหมายให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)นำเงินทุนของบสย.ไปช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอีที่กำลังมีปัญหาเรื่องการผ่อนชำระ เพื่อไม่ให้ตกชั้นเป็น หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) โดยเบื้องต้นคาดว่า จะเข้าไปช่วยค้ำประกันได้ในวงเงิน 30,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วย ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ได้ 40,000-50,000 ราย
“โครงการบสย. จะเริ่มดำเนินการได้ทันที โดยอาศัยอำนาจของคณะกรรมการ ของบสย.เป็นผู้อนุมัติ โดยการค้ำประกันดังกล่าว จะมีการปรับเงื่อนไขผ่อนปรน เช่น การปรับลดวงเงินจากสูงสุดรายละ 100 ล้านบาท เป็น 15-20 ล้านบาท เพื่อต้องการกระจายการช่วยเหลือให้มากขึ้น”นายอุตตมกล่าว
นอกจากนี้ นายอุตตม ยังได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) และธนาคารออมสิน ไปหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หรือ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ที่มา : กระทรวงการคลัง