นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมฯ ร่วมกับบริษัทสยามอินเตอร์การประมูล จำกัด จัดงานประมูลรถของกลาง ด้วยวิธีการประมูลด้วยวาจา และระบบประมูลออนไลน์เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ในวันที่ 8 ส.ค.2563 โดยมีรถยนต์ รถซูเปอร์คาร์ รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ รวมกว่า 200 คัน ซึ่งคาดว่าการประมูลครั้งนี้จะมีรายได้เข้ารัฐไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
ทั้งนี้การประมูลรอบดังกล่าวจะมีการแบ่งรถของกลางเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรกเป็นรถที่มีราคาเปิดประมูลต่ำกว่า 500,000 บาท จำนวน 75 คัน กลุ่มสองราคาเปิดประมูลตั้งแต่ 500,000 แต่ไม่ถึง 1.5 ล้านบาท จำนวน 90 คันและกลุ่มสามราคาเปิดประมูลตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 35 คัน โดยไฮไลท์การประมูล มีทั้งซูเปอร์คาร์ รถสปอร์ตเฟอร์รารีราคาป้ายแดง 24 ล้านบาท รถเบนท์ลีย์, ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ, มาเซราติ ,นิสสัน จีทีอาร์, และรถนำเข้าอื่นๆ
โดยการประมูลรอบนี้จะมีการเปิดประมูลออนไลน์พร้อมกับการประมูลด้วยวาจาเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกแก่ผู้เข้าร่วมประมูล ลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิด-19
นายชัยยุทธ กล่าวว่า รถที่นำมาประมูลทั้งหมดเป็นรถที่มีการจับกุมและดำเนินคดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว โดยการประมูลจะประมูลขายตามสภาพจริง ซึ่งอาจเป็นรถที่สตาร์ทไม่ติด รถที่ขับไม่ได้ หรือรถที่ขับได้ทันที จึงขอให้ผู้สนใจตรวจสอบสภาพรถก่อนได้ช่วงวันที่ 5-7 ส.ค.นี้
ขณะที่กระบวนการประมูลผู้สนใจต้องลงทะเบียนประมูลพร้อมวางหลักประกันก่อนคันละ 50,000-200,000 บาท โดยการประมูลด้วยวาจาเริ่มลงทะเบียนได้วันที่ 5-7 ส.ค.นี้ ส่วนการประมูลออนไลน์ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1-7 ส.ค.นี้ และทั้งสองระบบประมูลพร้อมกันวันที่ 8 ส.ค.นี้
ส่วนภาพรวมการจับกุมรถยนต์ในปัจจุบันมีการดำเนินคดีกว่า 3,000 คัน ซึ่งบางส่วนยังไม่ถึงสิ้นสุดในคดี โดยหากมีการคดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว กรมฯก็จะประสานให้กรมการขนส่งทางบก ตรวจสอบรายละเอียดก่อนนำออกมาทยอยประมูลอย่างต่อเนื่อง