นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการบริษัท รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) (THAI) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กรณีการผิดชำระหนี้ตามนิติกรรมเกี่ยวกับการรับความช่วยเหลือทางการเงิน และการออกตราสารหนี้ มูลค่ารวม 85,068,828,903 บาท หรือ 33.14% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท ตามงบการเงินล่าสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ซึ่งมีมูลค่ารวม 256,665,147,249 บาท และคิดเป็น 34.74% ของหนี้สินรวมของบริษัทที่อยู่ที่ 244,899,441,960 บาททั้งนี้ บริษัทได้รับการบอกกล่าวเรียกให้ชำระหนี้ภายใต้หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทและยังมิได้ไถ่ถอนครบทุกชุด และเนื่องจากบริษัทกำลังอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ทำให้อยู่ในสภาวะพักการชำระหนี้(Automatic Stay) และไม่สามารถชำระหนี้ดังกล่าวได้ในขณะนี้
สำหรับการผิดนัดชำระหนี้เกี่ยวกับการรับความช่วยเหลือทางการเงิน ประกอบด้วย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด(มหาชน) จำนวน 1,001,526,512.57 บาท, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำนวน 500,602,739.73 บาท, สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง จำนวน 11,958,699,651 บาท ส่วนการผิดชำระหนี้เกี่ยวกับการออกตราสารหนี้ ประกอบด้วย หุ้นกู้ซึ่งผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้มีหนังถือแจ้งให้บริษัทชำระหนี้หุ้นกู้ทั้งหมดโดยพลันเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 จำนวน 5 ชุด มูลค่ารวม 8,788 ล้านบาท, หุ้นกู้ซึ่งผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้มีหนังถือแจ้งให้บริษัทชำระหนี้หุ้นกู้ทั้งหมดโดยพลันเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2563 จำนวน 12 ชุด มูลค่ารวม15,500 ล้านบาท, หุ้นกู้ซึ่งผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้มีหนังถือแจ้งให้บริษัทชำระหนี้หุ้นกู้ทั้งหมดโดยพลันเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 จำนวน 2 ชุด มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีหุ้นกู้ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้รวมกันไม่น้อยกว่า 25% ของหุ้นกู้ที่ออกแต่ละครั้งและยังมิได้ไถ่ถอนทั้งหมด มีหนังสือแจ้งให้บริษัทชำระหนี้หุ้นกู้ทั้งหมดโดยพลัน เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2563 จำนวน 13 ชุดมูลค่ารวม 21,820 ล้านบาท, หุ้นกู้ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้รวมกันไม่น้อยกว่า 25% ของหุ้นกู้ที่ออกแต่ละครั้งและยังมิได้ไถ่ถอนทั้งหมด มีหนังสือแจ้งให้บริษัทชำระหนี้หุ้นกู้ทั้งหมดโดยพลัน เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2563 จำนวน 10 ชุด มูลค่ารวม 16,500 ล้านบาท และหุ้นกู้ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้รวมกันไม่น้อยกว่า 25% ของหุ้นกู้ที่ออกแต่ละครั้งและยังมิได้ไถ่ถอนทั้งหมด มีหนังสือแจ้งให้บริษัทชำระหนี้หุ้นกู้ทั้งหมดโดยพลัน เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 จำนวน 4 ชุด มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท