การระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยิ่งล่าช้า การอัดฉีดเงินของธนาคารกลางทั่วโลกก็ยังไม่เห็นผลในเชิงบวกนัก แต่ที่เห็นได้ชัดคือสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มผันผวนเกิดแรงเทขายและวิ่งเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง "ทองคำ" ทำให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ปรากฏการณ์นี้สะท้อนอะไร.? แนวโน้มทองจะเป็นอย่างไร ?
ยังคงปัจจัยหลักที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจของโลกและในหลายๆประเทศนะครับ สำหรับการระบาดของ COVID-19 ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่ทะลุขึ้นมาถึงระดับ 18 ล้านคน และคาดว่าจะไปถึง 20 คนในระยะใกล้นี้ นั่นหมายถึงตัวเลขผู้เสียชีวิตที่จะเพิ่มขึ้นตามไป การระบาดรอบที่ 2 ในหลายประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะสหรัฐฯ บราซิล และอินเดีย ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยิ่งล่าช้าออกไป กิจกรรมเศรษฐกิจหลายอย่างยิ่งส่งผลกระทบหนัก ไม่ว่าจะเป็น สายการบิน การท่องเที่ยว แม้จะมีหลายกลุ่มอย่างเช่น อุปโภคบริโภคในประเทศ ที่เริ่มกลับมาดำเนินได้ตามปกติมากขึ้น
แต่ประเด็นที่น่าจับตามองคือ การอัดฉีดเงินของธนาคารกลางทั่วโลกที่คาดว่าจะมีต่อเนื่องและยังไม่เห็นผลในเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจมากนัก แต่ที่เห็นได้ชัดคือสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มผันผวนเกิดแรงเทขายและวิ่งเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง ทองคำ ซึ่งเป็นเรื่องที่พอจะคาดเดากันมาก่อนได้ว่าเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจจะเป็นโอกาสของทองคำ
เราได้เห็นราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นทะลุระดับ 2,000 เหรียญฯ ในรอบหลายปี บ่งบอกถึงอะไร ..?? นั่นคือความต้องการในสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่าการลงทุนในสินทรัพ์เสี่ยง แต่ว่าราคาทองคำที่ขึ้นมารวดเร็วแบบนี้ สะท้อนอะไรอีกบ้าง..? แนวโน้มจะเป็นอย่างไร..? การจะเข้าลงทุนเหมาะหรือไม่ มีปัจจัยอะไรที่ต้องระมัดระวังอะไร ..??
ข่าวเกี่ยวข้อง
การปรับตัวของราคาทองคำสะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงข้อพิพาทเรื่องสงครามการค้าและความขัดแย้งทางการเมืองของสหรัฐฯกับจีน ตลอดจนค่าเงินสกุลต่างๆอ่อนค่าลง จากอัดฉีดเงินจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนบางส่วนจึงเลือกลงทุนในทองคำที่มองว่ามีคุณค่าในการปกป้องความมั่งคั่ง (Preserve real value of wealth)
ถามว่าราคาทองคำจะไปถึงเมื่อไร..? ต้องบอกว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวตามอุปสงค์และอุปทานของตลาดเป็นหลัก แต่มองว่าราคาทองคำจะยังคงแกว่งตัวเป็นขาขึ้นไปตลอดปี 2020 เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะยังชะลอตัวไปจนสิ้นปี 2020 อีกทั้งการอัดฉีดสภาพคล่องจากธนาคารกลางต่างๆที่ยังต้องดำเนินต่อไปจนถึงช่วงปีหน้า
ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตามองและจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของทิศทางราคาทองคำ คือ การควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 และการวิจัยผลิตวัคซีนป้องกันโรค ซึ่งจะมีผลทำให้ราคาทองคำจะเริ่มเปลี่ยนทิศทางเมื่อสถานการณ์เมื่อมีการผลิตวัคซีนที่มีประสิทธิภาพหรือเกิดภูมิคุ้มกันกับประชากรส่วนใหญ่ในประเทศ (Herd Immunity) ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากครึ่งหลังของปี 2021 เป็นต้นไป
ดังนั้นคำแนะนำสำหรับนักลงทุนกับการลงทุนในทองคำควรทำอย่างไรอย่างไรดี…?
ทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่เกิดปัญหาเศรษฐกิจจนทำให้สินทรัพย์เสี่ยงไม่น่าลงทุน แต่ความต้องการถือครองทองคำทำให้ราคาปรับตัวขึ้นไปมากจนอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงได้เช่นกัน ดังนั้นในช่วงระยะสั้น ราคาทองคำที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 2,000 เหรียญฯ จึงต้องระมัดระวังในการเข้าซื้อ ควรพิจารณาขายทำกำไรและหาจังหวะเข้าสะสมเมื่อราคามีการปรับฐาน
ส่วนระยะกลางถึงระยะยาวคาดว่าทองคำจะเป็นขาขึ้นไปจนถึงปี 2021 จึงแนะนำให้นักลงทุนระยะยาวจัดสรรน้ำหนักลงทุนในทองคำเพื่อเป็นป้องกันความเสี่ยงจากปัจจัยด้านสงครามการค้า และความเชื่อมั่นในค่าเงินสกุลหลักที่ลดลง
โดยสรุปแล้วทองคำถือเป็นสินทรัพย์ลงทุนทางเลือกที่มีความเสี่ยงสูง นักลงทุนควรมีไว้ในพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยง และจึงไม่ควรจัดสรรน้ำหนักลงทุนเกิน 5-10% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
โอกาสสำหรับการลงทุนในช่วงวิกฤตนั้นมีเสมอ การลงทุนเมื่อโอกาสมาถึงหรือจะลงทุนเพื่อรอโอกาสก็สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน แต่ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ใดเมื่อลงทุนแล้วต้องมีหาจังหวะทำกำไรนะครับรวมทั้งลดความเสี่ยงควบคู่กันไปด้วย ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่ประสบความสำเร็จนะครับ
ติดตามข่าวสารบทวิเคราะห์การลงทุนจาก KTBST SEC ได้ที่ “มุมมองความรู้” ทางเว็บไซด์ www.ktbst.co.th หรือ ทางwww.facebook.com/ktbst.th และสามารถขอคำปรึกษาการลงทุนได้ที่ KTBST SEC 02-648-1111