นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ในเดือนหน้า สบน.จะมีการประชุมทบทวนเป้าหมายหนี้สาธารณะในปีนี้ใหม่ หลังจากมีปัจจัยเรื่องโควิด-19 เข้ามา ที่ต้องมีการปรับเป้าหมายจีดีพีของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ในปีนี้ติดลบ 7.5% รวมถึงการที่ ครม.มีมติปรับเพิ่มวงเงินกู้ของรัฐบาลในกรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้เพิ่มเติมอีก 2.1 แสนล้านบาท แต่ขณะเดียวกันมีการนำหนี้ของ บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน) ออกจากแผนฯ ไปกว่าแสนล้านบาท เนื่องจาก การบินไทยได้พ้นสถานภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจไปแล้ว
ทั้งนี้หลังการทบทวนคาดว่าจะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย โดยปัจจุบันอยู่ที่ 45.83% และถึง ณ สิ้นปีงบประมาณในเดือนก.ย.2563 เดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 51.64 % แต่ภายหลังมีปัจจัยใหม่น่าจะเพิ่มมาอยู่ที่ 52.4% ส่วนเป้าหมายหนี้สาธารณะในปี 2564 สบน.ยังคงเป้าหมายหนี้สาธารณะไว้เท่าเดิมที่ 57.8% อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังที่มีเพดานไม่เกิน 60%
“ความจริงแล้ว หนี้สาธารณะของเราไม่ได้สูงเกินไป ซึ่งที่ผ่านมา เราคำนวณทั้งหมดเป็นหนี้สาธารณะ ทั้งของรัฐบาลกลาง และหนี้รัฐวิสาหกิจ FIDF จึงทำให้ดูสูง แต่ในความเป็นจริง หากใช้การคำนวณแบบทั่วไป โดยคิดแค่หนี้ของรัฐบาลอย่างเดียว ของเรามีเพียง 35% ซึ่งประเทศอื่นมีสูงถึง 50-55% และภาระดอกเบี้ยของเรามีเพียง 5-6% ถือว่าต่ำมาก เมื่อเทียบกับมาตรฐานประเทศอื่นที่อยู่ที่ 10%”นางแพตริเซีย กล่าว