วันนี้ 21 ต.ค. มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” เพื่อลดหย่อนภาษี ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา กำลังจะเริ่มขึ้นภายในวันที่ 23 ต.ค. เป็นวันแรก สิ้นสุดโครงการวันที่ 31 ธ.ค.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
www.ลงทะเบียนคนละครึ่ง.com พร้อมเติมเงินในแอปเป๋าตัง หลังปล่อยอัปเดตให้มีช่องคนละครึ่ง
www.คนละครึ่ง.com เปิดรายละเอียดการใช้สิทธิไม่เกิน150บาท/วัน
รวมข่าว "คนละครึ่ง" กับ "ช้อปดีมีคืน"
คลิกที่นี่รับสิทธิ www.คนละครึ่ง.com เปลี่ยนใจลงทะเบียนช้อปดีมีคืนได้หรือไม่ที่นี่มีคำตอบ
มาตรการ "ช้อปดีมีคืน"เพื่อลดหย่อนภาษี มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และสนับสนุนผู้ประกอบการ รวมถึงการส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่นที่เป็นเศรษฐกิจระดับฐานรากและส่งเสริมการอ่านอันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. สาระสำคัญของมาตรการ
กำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หักลดหย่อนซื้อสินค้าหรือบริการที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือ
การรับบริการในประเทศที่จ่ายให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าซื้อหนังสือและค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และ ค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรการพัฒนาชุมชนแล้ว ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท
1. ค่าสุรา เบียร์ และไวน์
2. ค่ายาสูบ
3. ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
4. ค่ารถยนต์รถจักรยานยนต์ และเรือ
5.ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสารและค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินทอร์เน็ต
6. ค่าบริการจัดนำเที่ยว
7.ค่าที่พักในโรงแรม
ทั้งนี้ ผู้มีเงินได้ต้องไม่ด้รับสิทธิ์ตามโครงการคนนละคงหรือโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
2. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
กระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายในประเทศในช่วงปลายปี 2563 ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมูลค่าประมาณ 111,000 ลันบาท และจะส่งผลให้ GDP เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.30 ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ
เข้าเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งจะเป็นการขยายฐานภาษีและส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ภาษีของรัฐในระยะยาวมาตรการดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการรักษาระดับการรบริโภคภายในประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 3 โครงการ/มาตรการ ได้แก่
"โครงการคนละครึ่ง" จะช่วยเหลือดูแลพ่อค้าแม่ค้าขนาดเล็กที่ประกอบกิจการขายสินค้าหาบเร่แผงลอยที่เป็นบุคคลธรรมดา
"โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" จะช่วยเหลือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยการเพิ่มวงเงินพิเศษ สำหรับซื้อสินค้า
บริโภคอุปโภคที่จำเป็น 500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 ดือน และ "มาตรการช้อปดีมีคืน"จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ รวมถึงการส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่นและส่งเสริมการอ่าน ทั้งนี้ โครงการ/มาตรการดังกล่าวจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายกว่า 28 ล้านคน
โดยคาดว่าจะมีเม็เงินข้าสู่ระบบเศรษฐกิจทว่า 192,000 ล้านบาท ส่งผลให้ GDP เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.54
นอกจากนี้แล้ว มาตรการช้อปดีมีคืน หลายคนเข้าใจว่าเมื่อซื้อสินค้า 30,000 ตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดแล้วจะได้คืนภาษี 30,000 บาท ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เพราะเงินภาษีจะได้คืนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเงินได้และอัตราภาษีที่แต่ละคนจะต้องจ่าย ซึ่งเมื่อคำนวณจากเงินได้สุทธิต่อปี อัตราภาษีที่ผู้เสียภาษีแต่ละคนต้องจ่าย พบว่าผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแต่ละกลุ่มจะมีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุดดังนี้