จากกรณีที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เตรียมเสนอขอกระทรวงการคลัง ให้เลื่อนระยะเวลาการชำระเงินในโครงการคนละครึ่งให้กับผู้ค้า จากปกติจะได้รับในวันถัดไปจากวันที่มีการใช้จ่าย เนื่องจากธนาคาารต้องการตรวตรวจสอบผู้ค้าก่อนว่าเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริตหรือไม่นั้น
แหล่งข่าวจากกระทรววงการคลัง ระบุว่า กระทรวงการคลังยังไม่ได้รับทราบในเรื่องดังกล่าว แต่การจ่ายเงินให้กับผู้ค้าในโครงการนี้นั้น ขึ้นอยู่กับระบบของกรุงไทยที่จะดำเนินการได้เอง แต่ตามเงื่อนไขของโครงการจะมีระบุชัดเจนว่าต้องจ่ายเงินให้กับร้านค้าในวันถัดไป หรือหากติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ ก็จะจ่ายเงินให้ในวันทำการถัดไปทันที เนื่องจากผู้ค้ารายย่อยจำนวนมากที่เข้าโครงการ เป็นผู้ค้าที่ต้องใช้จ่ายเงินสด จึงต้องการเงินสภาพคล่องเพื่อหมุนเวียน เพื่อซื้อสินค้ามาจำหน่ายต่อแบบวันต่อวัน ดังนั้นหากมีการจ่ายเงินล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ ก็อาจจะทำให้ผู้ค้าเหล่านี้ได้รับผลกระทบได้
อย่างไรก็ตาม หากจะมีการตรวจสอบและจ่ายเงินผู้ค้าล่าช้ากว่าที่โครงการกำหนด ควรจะเลือกเป็นรายร้านค้าที่เห็นพฤติกรรมเสี่ยงการทุจริต มากกว่าจะดำเนินการเช่นเดียวกันทุกราย เพราะอาจทำให้โครงการได้รับผลกระทบได้
"คงต้องขึ้นอยู่กับกรุงไทย เพราะเขาเป็นคนจ่ายเงิน แต่ตามเงื่อนไขแล้ว จะมีระบุชัดเจนนว่าต้องจ่ายภายใน 1 วันหลังจากใช้จ่าย ซึ่งการเลื่อนออกไป 4-5 วันก็ต้องดูก่อนว่าเป็นเหตุเป็นผลหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ผู้ค้าดีๆ ได้รับผลกระทบไปด้วย"
ส่วนกรณีที่กระทรวงการคลังเสนอให้ธนาคารกรุงไทย ให้รางวัลนำจับกับประชาชนที่แจ้งข้อมูลการกระทำความผิดของร้านค้าที่เข้าโครงการคนละครึ่งนั้น ขณะนี้ธนาคารกรุงไทย ได้รับเรื่องดังกล่าวแล้ว และกำลังพิจารณาความเหมาะสมอยู่