เช็กเงื่อนไข -วิธีสมัครสินเชื่อกรุงไทย Smart Money กู้สูงสุด 1 ล้านบาท

11 พ.ย. 2563 | 19:00 น.
อัปเดตล่าสุด :12 พ.ย. 2563 | 04:01 น.

อยากกู้เงิน ไม่จำเป็นต้องมีคนค้ำ กรุงไทยจัดให้! เปิดบริการสินเชื่อ Smart Money วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท

ธนาคารกรุงไทย เปิดให้บริการสินเชื่อ Smart Money โดยชูจุดเด่น 3 ข้อหลักได้แก่ วงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ แต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท , ไม่มีบัญชีเงินเดือนกับกรุงไทยก็ทำได้ เพียงมีรายได้ 30,000 บาทขึ้นไป และ กู้ง่าย ไม่ต้องมีหลักประกัน หรือคนค้ำประกัน

 

คุณสมบัติผู้กู้


-บุคคลทั่วไปที่มีรายได้ต่อเดือนขั้นต่ำ 30,000 บาท มีอายุงานไม่น้อยกว่า 1 ปี


-เจ้าของร้านค้ารายย่อยทั่วไป มีรายได้สุทธิขั้นต่ำ เดือนละ 30,000 บาท เปิดร้านมาไม่น้อยกว่า 2 ปี


-ไม่มีประวัติเสียหายด้านการเงิน ไม่มีหนี้สินล้นพ้นตัว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดรายละเอียดสินเชื่อกรุงไทย Smart Money กู้ได้ไม่เกิน  1 ล้าน

วิธีกู้ "สินเชื่อเสริมพลังฐานราก" ธ.ออมสิน ทำยังไงถึงจะได้รับอนุมัติ

เช็กที่นี่ สินเชื่อเสริมพลังฐานรากธนาคารออมสิน กู้5หมื่น ดอกเบี้ย 0.35%

สมัคร "สินเชื่อเสริมพลังฐานราก" ธ.ออมสิน จะรู้ผลได้ยังไง เช็กได้ที่นี่ 

กู้สูงสุด 5 หมื่นบาท สินเชื่อเสริมพลังฐานราก ธ.ออมสิน ผ่านแอปฯ“MyMo”


เอกสารที่ต้องใช้สมัคร

-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

-สำเนาทะเบียนบ้าน

-บัตรประจำตัวพนักงาน (ถ้ามี)

-ต้นฉบับหนังสือรับรองรายได้ หรือสลิปเงินเดือนล่าสุด หรือต้นฉบับหลักฐานอื่นที่แสดงรายได้ที่เชื่อถือได้

-Statement 


-สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีรายได้ประจำ ใช้ Statement ย้อนหลังมากกว่า 3 เดือน


-ส่วนเจ้าของร้านค้ารายย่อยทั่วไป ใช้ Statement ที่ดำเนินธุรกิจ ย้อนหลัง 1 ปี สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน (หากมี) หรือสำเนาทะเบียนการค้า (หากมี)


-เอกสารใบแจ้งยอดบัญชีสินเชื่อบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิตเดือนล่าสุด หรือ เอกสารอื่นในลักษณะเดียวกัน หากต้องการกู้เพื่อชำระค่าสินเชื่อ



ส่วนคำถามที่ว่า จ่ายเงินกู้ได้ที่ไหนบ้างนั้น ธนาคารกรุงไทยได้ให้ข้อมูลว่าจะจ่ายเงินกู้ผ่าน 3 ช่องทางได้แก่


-สาขาธนาคาร


-Krungthai NEXT/Internet Banking


-ตู้ ATM

ข้อควรรู้สินเชื่อSmart Money 

  • อัตราดอกเบี้ย

-กรณีบุคคลทั่วไปที่มีรายได้ประจำ อัตราดอกเบี้ย 20% ต่อปี


-กรณีผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ย 22% ต่อปี

 

  • อัตราดอกเบี้ย หรือเบี้ยปรับกรณีผิดชำระ

 

-คิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้บนค่างวดที่ลูกหนี้ผิดนัดชำระเฉพาะส่วนที่เป็นเงินต้นของค่างวดนั้นในอัตราดอกเบี้ยสูงสุดตามประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร


-สูตรการคำนวณอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระ คือ เงินต้นของค่างวดที่ผิดนัดชำระxอัตราดอกเบี้ยผิดนัดxจำนวนวันที่ผิดนัด และหารด้วย 365 วัน 

 

  • วงเงิน

-กรณีบุคคลทั่วไปที่มีรายได้ประจำ สูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ และไม่เกิน 1.0 ล้านบาท


-กรณีผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยทั่วไป สูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของรายได้สุทธิ และไม่เกิน 5 แสนบาท

 

  • ค่าบริการต่าง

-ค่าอากรแสตมป์ : เงินกู้ 2,000 บาท ต่อค่าอากร 1 บาท เศษของ 2,000 บาท คิด 1 บาท สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท


-ค่าติดตามทวงถามหนี้ : 100 บาทต่อบัญชีต่อทุกรอบของการผิดนัดชำระหนี้


 

ข้อควรระวัง

-ท่านต้องชำระหนี้ให้กับธนาคารตามจำนวนที่กำหนดในแต่ละรอบการชำระ ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากผิดนัดชำระธนาคาจะคิดดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยสูงสุด กรณีผิดนัดชำระหนี้ตามที่ธนาคารประกาศกำหนด


-หากท่านผิดนัดชำระหนี้ หรือผิดเงื่อนไขการชำระหนี้ อาจมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้จากท่าน

 

  • การแจ้งให้ชำระหนี้ หรือค่าธรรมเนียมต่างๆ


-จัดส่งใบแจ้งหนี้ให้แก่ลูกค้าทุกเดือนทางไปรษณีย์ หรือทางอิเล็กทรอนิกส์ตามที่ลูกค้าได้เลือกไว้ ซึ่งมีรายละเอียดต่างๆ เช่น วงเงินกู้ จำนวนต้นเงินคงเหลือ ดอกเบี้ย ดอกเบี้ยผิดนัด (ถ้ามี) ค่าธรรมเนียม/เบี้ยปรับ (ถ้ามี) รวมเงินที่ต้องชำระวันที่ชำระครั้งต่อไป เป็นต้น

 

  • การแจ้งได้รับชำระเงินจากลูกค้า

 

-จัดส่งใบเสร็จรับชำระเงินกู้ให้แก่ลูกค้าทุกเดือนทางไปรษณีย์ เฉพาะกรณีหักชำระจากบัญชีเงินฝากเท่านั้น กรณีอื่นๆ ได้รับจากช่องทางตามที่ลูกค้าชำระ เช่น เคาน์เตอร์บริการที่สาขา หรือทางอิเล็กทรอนิกส์ตามที่ลูกค้าได้เลือกไว้ โดยแจ้งรายละเอียดใบเสร็จรับเงิน เช่น จำนวนเงินต้น ดอกเบี้ย ดอกเบี้ยผิดนัด (ถ้ามี) ค่าธรรมเนียม/เบี้ยปรับ (ถ้ามี) รวมจำนวนเงินที่ชำระ เป็นต้น

  • การแจ้งเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการให้บริการ หรือการแจ้งเตือนที่สำคัญต่างๆ

 

-หากข้อมูลรายละเอียดในการติดต่อของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลง กรุณาแจ้งให้ทางธนาคารทราบทันที เช่น ชื่อ-นามสกุล อาชีพ สถานที่ทำงาน สถานที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้การสื่อสารข้อมูลกับลูกค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยการแจ้งผ่านสาขาที่ลูกค้าใช้บริการ

  • ประกันภัยประเภทที่ลูกค้าจำเป็นต้องทำ หรือที่สามารถเลือกได้

 

-ลูกค้าสามารถเลือกทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อหรือไม่ก็ได้ การทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าและทายาทในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน ทั้งนี้การทำประกันชีวิตฯ ดังกล่าว เป็นไปตามความสมัครใจของลูกค้า และไม่มีผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ

 

  • ช่องทางการติดต่อธนาคาร

-หากมีข้อสงสัยหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแจ้งข้อร้องเรียน ลูกค้าสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Krungthai.com หรือ Call Center โทร. 02 111 1111 หรือ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา