จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ต่อเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม และด้วยเหตุนี้ธนาคารออมสินจึงได้ดำเนินการเร่งให้ความเหลือในหลายมาตรการ รวมถึงร่วมบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชนผ่านการให้สินเชื่อเพื่อบรรเทาผลกระทบ
หนึ่งในมาตรการก็คือสินเชื่อเสริมพลังฐานราก แต่ด้วยคุณสมบัติผู้กู้ตามโครงการนี้ กำหนดว่าจะต้องเป็น "ลูกค้าสินเชื่อเดิมหรือที่เคยเปิดบัญชีสินเชื่อกับธนาคารออมสินภายใน 3 ปี " ดังนั้นลูกค้าใหม่หรือไม่เคยมีสินเชื่อกับธนาคาร รวมทั้งที่เคยมีสินเชื่อกับธนาคารและปิดไปแล้วเกิน 3 ปี จะไม่สามารถขอกู้สินเชื่อเสริมพลังฐานรากได้
อย่างไรก็ดีธนาคารออมสิน ยังมีโปรดักซ์ "สินเชื่อเงินกู้ฉุกเฉิน" เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ประกอบการอาชีพอิสระ และผู้มีรายได้ประจำ (ลูกค้ารายใหม่ ) โดยผู้ประกอบการอาชีพอิสระให้กู้รายละไม่เกิน 10,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.10% ต่อเดือน ไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือคนค้ำประกัน และสำหรับผู้มีรายได้ประจำ กู้ได้รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.35% ต่อเดือน มีบุคคลค้ำประกัน 1-2 คน หรือหลักประกันค้ำฯประเภทอื่นที่ธนาคารกำหนด ธนาคารตั้งวงเงินสินเชื่อรวม 40,000 ล้านบาท เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563 นี้เท่านั้น หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อหมด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เช็กที่นี่ กู้สินเชื่อเสริมพลังฐานรากธ.ออมสิน ผ่อนครบ 5 หมื่นบาทต้องจ่ายดอกเบี้ยเท่าไร
ข้อควรรู้ "สินเชื่อเสริมพลังฐานราก" ธ.ออมสิน ใครบ้างมีสิทธิ์กู้สูงสุด 5 หมื่นบาท
ธนาคารออมสินสินเชื่อเสริมพลังฐานราก กู้สูงสุด 5 หมื่น สรุปทุกขั้นตอนเช็กที่นี่
สินเชื่อเสริมพลังฐานราก ออมสิน อายุ 20 ปีขึ้นไป-อาชีพอิสระ กู้ได้
และเพื่อให้ผู้กู้สามารถเข้าใจเงื่อนไขรายละเอียด "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมไว้ดังนี้
สำหรับผู้มีอาชีพอิสระ วงเงินสูงสุด 10,000 บาท
คุณสมบัติ
-สัญชาติไทย และอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ทั้งนี้เมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลากู้แล้วอายุต้องไม่เกิน 70 ปี
-ผู้ประกอบอาชีพอิสระนอกภาคการเกษตร (เช่น พ่อค้าแม่ค้า ลูกจ้าง/รับจ้างทั่วไป ขับแท็กซี่ มัคคุเทศก์ เป็นต้น)
-มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 30,000 บาท
-มีที่อยู่อาศัยแน่นอนที่ติดต่อได้
-เป็นผู้ได้รับผลกระทบ COVID-19
เงื่อนไขสินเชื่อ
-วงเงิน 10,000 บาท
-อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) 0.10% ต่อเดือน
-ไม่ต้องมีหลักประกัน
-ระยะเวลาให้กู้ไม่เกิน 2 ปี ปลอดการผ่อนชำระหนี้ใน 6 งวดแรก เริ่มชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยในงวดที่ 7 โดยหักเงินชำระจากบัญชีเงินฝากของผู้กู้
-ระยะเวลาอนุมัติเงินกู้และจัดทำสัญญา สิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2563 หรือจนกว่าจะครบวงเงินโครงการจำนวน 20,000 ล้านบาท
วิธีการรับเงินกู้
-เมื่อได้รับข้อความ SMS แจ้งผลการพิจารณาเงินกู้ จะจ่ายโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากที่แจ้งไว้ภายใน 3 วัน
เอกสารใช้ในการขอกู้
-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
-สำเนาทะเบียนบ้าน
-เอกสาร/หลักฐานแสดงการได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) (ถ้ามี) เช่น หนังสือแจ้งปิดสถานประกอบการ/ประกอบอาชีพ เอกสารสั่งการจากหน่วยงานราชการ เป็นต้น
-เอกสารแสดงการชำระหนี้เป็นปกติ กรณีลูกค้ามีประวัติหนี้ค้างชำระ
สำหรับผู้มีรายได้ประจำ วงเงินสูงสุด 50,000 บาท
คุณสมบัติ
-สัญชาติไทย มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 65 ปี
-ผู้มีรายได้ประจำ แต่มีรายได้ลดลงหรือขาดรายได้เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา (COVID-19) เช่น พนักงานบริษัทในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหรือธุรกิจบริการและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เป็นต้น
-เป็นผู้ที่มีถิ่นที่อยู่แน่นอน มีสถานที่ประกอบอาชีพสามารถติดต่อได้
-เป็นผู้ฝากเงินประเภทเผื่อเรียกของธนาคาร
-มีการตรวจสอบรายได้จากกรมสรรพากร (ถ้ามี)
เงื่อนไขสินเชื่อ
-ให้กู้ตามความจำเป็นและความสามารถในการชำระคืน ไม่เกินรายละ 50,000 บาท
-อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) ร้อยละ 0.35 ต่อเดือน
-ต้องมีหลักประกัน (บุคคลค้ำประกัน 1-2 คน หรือหลักประกันประเภทอื่นที่ธนาคารกำหนด)
-ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ย ไม่เกิน 3 ปี
-ผ่อนชำระ 36 งวด ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นรายเดือน โดยหักเงินชำระจากบัญชีเงินฝากของผู้กู้
-ระยะเวลาอนุมัติเงินกู้และจัดทำสัญญา สิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2563 หรือจนกว่าจะครบวงเงินโครงการจำนวน 20,000 ล้านบาท
วิธีการขอสินเชื่อ
-ลงทะเบียนผ่าน Web Site ธนาคาร กรอกข้อมูลส่วนตัวที่ธนาคารกำหนด
-ธนาคารจะแจ้งให้มาติดต่อที่สาขา
-ยื่นเอกสารการขอกู้ที่สาขา
-ธนาคารพิจาณาเอกสารประมาณ 4-15 วันทำการขึ้นอยู่กับหลักประกันและเอกสารคำขอกู้ครบถ้วน
เอกสารใช้ในการขอกู้ ของผู้กู้/ผู้ค้ำประกัน
1. เอกสารส่วนบุคคล
1.1 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน ใบเปลี่ยนชื่อสกุล (ถ้ามี) ของผู้กู้และคู่สมรส/ผู้ค้ำประกัน
1.2 เอกสารแสดงสถานภาพ เช่น สำเนาใบสำคัญการสมรส (ถ้ามี)
1.3 สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากเผื่อเรียกธนาคาร ออมสิน/บัญชีเงินฝากพื้นฐาน ของผู้กู้
2. เอกสารทางการเงิน
2.1 สลิปเงินเดือน/หลักฐานการรับเงินเดือน เดือนล่าสุด ของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน กรณีผู้ค้ำประกันไม่ใช่ผู้มีรายได้ประจำ (ประกอบอาชีพอิสระ) สามารถใช้บัญชีรับ-จ่ายย้อนหลัง 3 เดือนโดยอนุโลม
2.2 เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) ย้อนหลัง 3 เดือนของผู้กู้ และเดือนล่าสุดของผู้ค้ำประกัน
ภาระดอกเบี้ยจ่าย
"เงินกู้ฉุกเฉิน" สำหรับผู้ประกอบการอาชีพอิสระ ปล่อยกู้สูงสุดต่อรายที่ 10,000 บาท จะผ่อนชำระต่อเดือน ( เงินต้นบวกดอกเบี้ย 24 เดือน ) ที่ 568 บาท (ปลอดชำระ 6 เดือนแรก เริ่มส่งตั้งแต่งวดที่ 7 - 24 ) ส่วนกรณีผู้มีรายได้ประจำวงเงินกู้สูงสุดจะที่รายละ 50,000 บาท คิดดอกเบี้ยเงินกู้อัตรา 0.35% ต่อเดือน ผ่อนชำระต่อเดือน (เงินต้นบวกดอกเบี้ย 36 เดือน ) 1,564 บาท
ดังนั้นภาระดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกอบการอาชีพอิสระ วงเงินกู้สูงสุด 10,000 บาท ตลอด 2 ปีจะอยู่ที่ 240 บาท และกรณีผู้มีรายได้ประจำกู้สูงสุดที่ 50,000 บาท ภาระดอกเบี้ยตลอด 3 ปีจะอยู่ที่ 6,300 บาท ตามลำดับ
ส่วนกรณี"สินเชื่อเสริมพลังฐานราก" หากเป็นผู้ประกอบการอาชีพอิสระ สินเชื่อเสริมพลังฐานรากจะปล่อยกู้สูงสุดต่อรายที่ 30,000 บาท ผ่อนชำระต่อเดือน ( เงินต้นบวกดอกเบี้ย 30 เดือน โดย 6 เดือนแรกปลอดการชำระ) ที่ 1,126 บาท ส่วนกรณีผู้มีรายได้ประจำวงเงินกู้สูงสุดจะอยู่ที่รายละ 50,000 บาท คิดดอกเบี้ยเงินกู้อัตรา 0.35% ต่อเดือนเท่ากัน ผ่อนชำระต่อเดือน (เงินต้นบวกดอกเบี้ย 30 เดือน) ประมาณ 1,877 บาท
ดังนั้นภาระดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกอบการอาชีพอิสระ วงเงินกู้สูงสุด 30,000 บาท ตลอด 3 ปีจะอยู่ที่ 3,780 บาท และกรณีผู้มีรายได้ประจำกู้สูงสุดที่ 50,000 บาท ภาระดอกเบี้ยตลอด 3 ปีจะอยู่ที่ 6,300 บาท ตามลำดับ