เปิดพอร์ต "จุฬางกูร" สยบหรือจริง เทกโอกเวอร์ BEC

19 พ.ย. 2563 | 05:11 น.

จากกระแสข่าวที่ว่า บริษัทบีอีซีเวิลด์ จำกัด มหาชน ( BEC )ถูกเทคโอเวอร์โดยตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ(ผ่านกลุ่มตระกูล จุฬางกูร ที่ถือหุ้นใหญ่ ) 

 

 

"ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมข้อมูลการเคลื่อนไหวการถือหุ้นของกลุ่ม "จุฬางกูร"  เพื่อสะท้อนข่าวดังกล่าวพบว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันปิดสมุดทะเบียน 7 กรกฏาคม 2563  นายทวีฉัตร จุฬางกูร ถือหุ้นจำนวน 284,882,500 หุ้น คิดเป็น 14.24% ขณะที่นางหทัยรัตน์ จุฬางกูร ( มารดา ) ถือจำนวน 70,660,900หุ้น สัดส่วน 3.53%

 

อย่างไรก็ตามจากข้อมูลแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ล่าสุดเมื่อวันที่วันที่ 7 สิงหาคม 2563 รายงานว่า นางหทัยรัตน์ จุฬางกูร ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่ม BEC เพิ่มอีก 1,018,200 หุ้น คิดเป็น 0.0509%  ส่งผลให้สัดส่วนการถือ เพิ่มเป็น 100,381,600 หุ้น  คิดเป็นสัดส่วน 5.0190% 

 

 

เปิดพอร์ต \"จุฬางกูร\" สยบหรือจริง เทกโอกเวอร์ BEC

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผู้บริหารแจงข่าวลือ"จึงรุ่งเรืองกิจ"เทคโอเวอร์ช่อง 3 ไม่จริง

 

และส่งผลให้การถือหุ้นเมื่อรวมกับนายทวีฉัตร จุฬางกูร แล้วมีจำนวน 385,264,100 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือของกลุ่ม "จุฬางกูร "รวมอยู่ที่ 19.26% มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ณ 18 พ.ย. 2563 ) อยู่ที่ 1,946 ล้านบาท  ( สัดส่วนดังกล่าวไม่นับรวมการถือของณัฐพล จุฬางกูร ที่เคยถือ 37,676,600 1.88% ( ณ  29 มี.ค. 62 ) แต่ปัจจุบันไม่ปรากฏใน 10 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ) 

 

ทั้งนี้การเคลื่อนไหวหุ้นกลุ่มของ "จุฬางกูร " ใน BEC  พบว่านายทวีฉัตร จุฬางกูร  ได้เพิ่มสัดส่วนอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในช่วงปี 2561 จากการเข้าซื้อบิ๊กล็อต ส่งผลให้โครงสร้างผู้ถือหุ้น ปิดสมุดทะเบียน ณ 28 มีนาคม 2561 จากที่เคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 6 ถือจำนวน  100,328,400 หุ้น สัดส่วน  5.02% กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ถือหุ้นจำนวน 8,938,600 หุ้น สัดส่วน 10.14% เมื่อวันที่  7 ธันวาคม 2561 ก่อนเพิ่มสัดส่วนเป็น  11.51% ในปี 2562 และล่าสุดถืออยู่ 14.24%

 

ขณะที่นางหทัยรัตน์ จุฬางกูร  เพิ่งปรากฏชื่อการถือหุ้นโดยติด 10 อันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BEC เมื่อปี 2562 ถือ 1.26% ก่อนจะขยับเป็น 3.53% และล่าสุดถืออยู่  5.02%  

 

อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบกับหุ้นที่ถือรวมกันของตระกูล "มาลีนนท์" ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29 มีนาคม 2562  ตระกูลมาลีนนท์ ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 863,440,100 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 43.17% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด 

 

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก(@07 ก.ค. 2563) จำนวนหุ้น %
1. นาย ทวีฉัตร จุฬางกูร 284,882,500 14.24
2. น.ส. รัตนา มาลีนนท์ 187,672,420 9.38
3. น.ส. อัมพร มาลีนนท์ 136,113,500 6.81
4. น.ส. นิภา มาลีนนท์ 136,113,300 6.81
5. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 112,011,758 5.60
6. NORTRUST NOMINEES LTD-CL AC 97,338,300 4.87
7. นาง หทัยรัตน์ จุฬางกูร 70,660,900 3.53
8. นาย จาตุรนต์ นิพัทธกุศล 58,787,500 2.94
9. นาย ศรัณย์ นิพัทธกุศล 58,787,500 2.94
10. บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) 47,433,900 2.37

 

 

 


ทวีฉัตร จุฬางกูร เป็นทายาทหมื่นล้าน “ซัมมิทกรุ๊ป” เป็นบุตรชาย สรรเสริญ จุฬางกูร อดีตประธานกรรมการบริษัทเอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ปัจจุบันเปลี่ยนมือเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เฟอร์รั่ม จำกัด (มหาชน)

 

ปัจจุบัน "ทวีฉัตร" เข้าลงทุนในหุ้นไม่ต่ำกว่า 40 ตัว ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1.หุ้นของครอบครัว  2. หุ้นที่ร่วมลงทุนกับเพื่อน-บริษัทของพันธมิตร และ 3. หุ้นที่ต้องการฟื้นฟู  

 

ชื่อของ" ทวีฉัตร จุฬางกูร" ยังปรากฏเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในหลายบริษัท กล่าวคือนอกจากบริษัทอีซี เวิลด์ ( BEC ) ยังมีสายการบินนกแอร์(NOK)  บริษัทซีเอ็ดยูเคชั่น (SE-ED)  นวนคร (NNCL) โมเดอร์นฟอร์มคป (MODERN) และบริษัท ริช เอเชีย คอร์ปอเรชัน(RICH)

 

นอกจากนี้ยังถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ในบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ (CI) บริษัท ชาฟารีเวิลด์ (SAFARI) บริษัท เจชีเค ฮอสพิทอลลิตี (JCKH) ซึ่งหากนับรวมการถือหุ้นของมารดา (หทัยรัตน์) และน้องชาย (ณัฐพล-วุฒิภูมิ-กรกฤช)ด้วย คาดว่ามูลค่าหุ้นที่ถือโดย กลุ่มจุฬางกูร จะมีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท