จากกระแสข่าวที่ว่า บริษัทบีอีซีเวิลด์ จำกัด มหาชน ( BEC )ถูกเทคโอเวอร์โดยตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ(ผ่านกลุ่มตระกูล จุฬางกูร ที่ถือหุ้นใหญ่ )
"ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมข้อมูลการเคลื่อนไหวการถือหุ้นของกลุ่ม "จุฬางกูร" เพื่อสะท้อนข่าวดังกล่าวพบว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันปิดสมุดทะเบียน 7 กรกฏาคม 2563 นายทวีฉัตร จุฬางกูร ถือหุ้นจำนวน 284,882,500 หุ้น คิดเป็น 14.24% ขณะที่นางหทัยรัตน์ จุฬางกูร ( มารดา ) ถือจำนวน 70,660,900หุ้น สัดส่วน 3.53%
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ล่าสุดเมื่อวันที่วันที่ 7 สิงหาคม 2563 รายงานว่า นางหทัยรัตน์ จุฬางกูร ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่ม BEC เพิ่มอีก 1,018,200 หุ้น คิดเป็น 0.0509% ส่งผลให้สัดส่วนการถือ เพิ่มเป็น 100,381,600 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 5.0190%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้บริหารแจงข่าวลือ"จึงรุ่งเรืองกิจ"เทคโอเวอร์ช่อง 3 ไม่จริง
และส่งผลให้การถือหุ้นเมื่อรวมกับนายทวีฉัตร จุฬางกูร แล้วมีจำนวน 385,264,100 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือของกลุ่ม "จุฬางกูร "รวมอยู่ที่ 19.26% มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ณ 18 พ.ย. 2563 ) อยู่ที่ 1,946 ล้านบาท ( สัดส่วนดังกล่าวไม่นับรวมการถือของณัฐพล จุฬางกูร ที่เคยถือ 37,676,600 1.88% ( ณ 29 มี.ค. 62 ) แต่ปัจจุบันไม่ปรากฏใน 10 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ )
ทั้งนี้การเคลื่อนไหวหุ้นกลุ่มของ "จุฬางกูร " ใน BEC พบว่านายทวีฉัตร จุฬางกูร ได้เพิ่มสัดส่วนอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในช่วงปี 2561 จากการเข้าซื้อบิ๊กล็อต ส่งผลให้โครงสร้างผู้ถือหุ้น ปิดสมุดทะเบียน ณ 28 มีนาคม 2561 จากที่เคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 6 ถือจำนวน 100,328,400 หุ้น สัดส่วน 5.02% กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ถือหุ้นจำนวน 8,938,600 หุ้น สัดส่วน 10.14% เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2561 ก่อนเพิ่มสัดส่วนเป็น 11.51% ในปี 2562 และล่าสุดถืออยู่ 14.24%
ขณะที่นางหทัยรัตน์ จุฬางกูร เพิ่งปรากฏชื่อการถือหุ้นโดยติด 10 อันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BEC เมื่อปี 2562 ถือ 1.26% ก่อนจะขยับเป็น 3.53% และล่าสุดถืออยู่ 5.02%
อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบกับหุ้นที่ถือรวมกันของตระกูล "มาลีนนท์" ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29 มีนาคม 2562 ตระกูลมาลีนนท์ ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 863,440,100 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 43.17% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก(@07 ก.ค. 2563) | จำนวนหุ้น | % | |
1. | นาย ทวีฉัตร จุฬางกูร | 284,882,500 | 14.24 |
2. | น.ส. รัตนา มาลีนนท์ | 187,672,420 | 9.38 |
3. | น.ส. อัมพร มาลีนนท์ | 136,113,500 | 6.81 |
4. | น.ส. นิภา มาลีนนท์ | 136,113,300 | 6.81 |
5. | บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด | 112,011,758 | 5.60 |
6. | NORTRUST NOMINEES LTD-CL AC | 97,338,300 | 4.87 |
7. | นาง หทัยรัตน์ จุฬางกูร | 70,660,900 | 3.53 |
8. | นาย จาตุรนต์ นิพัทธกุศล | 58,787,500 | 2.94 |
9. | นาย ศรัณย์ นิพัทธกุศล | 58,787,500 | 2.94 |
10. | บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) | 47,433,900 | 2.37 |
ทวีฉัตร จุฬางกูร เป็นทายาทหมื่นล้าน “ซัมมิทกรุ๊ป” เป็นบุตรชาย สรรเสริญ จุฬางกูร อดีตประธานกรรมการบริษัทเอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ปัจจุบันเปลี่ยนมือเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เฟอร์รั่ม จำกัด (มหาชน)
ปัจจุบัน "ทวีฉัตร" เข้าลงทุนในหุ้นไม่ต่ำกว่า 40 ตัว ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1.หุ้นของครอบครัว 2. หุ้นที่ร่วมลงทุนกับเพื่อน-บริษัทของพันธมิตร และ 3. หุ้นที่ต้องการฟื้นฟู
ชื่อของ" ทวีฉัตร จุฬางกูร" ยังปรากฏเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในหลายบริษัท กล่าวคือนอกจากบริษัทอีซี เวิลด์ ( BEC ) ยังมีสายการบินนกแอร์(NOK) บริษัทซีเอ็ดยูเคชั่น (SE-ED) นวนคร (NNCL) โมเดอร์นฟอร์มคป (MODERN) และบริษัท ริช เอเชีย คอร์ปอเรชัน(RICH)
นอกจากนี้ยังถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ในบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ (CI) บริษัท ชาฟารีเวิลด์ (SAFARI) บริษัท เจชีเค ฮอสพิทอลลิตี (JCKH) ซึ่งหากนับรวมการถือหุ้นของมารดา (หทัยรัตน์) และน้องชาย (ณัฐพล-วุฒิภูมิ-กรกฤช)ด้วย คาดว่ามูลค่าหุ้นที่ถือโดย กลุ่มจุฬางกูร จะมีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท