นางสาวศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ในเดือน มกราคม 2564 กบข.จะมีการจัดทำ กรอบการลงทุน ในระยะยาว 5-10 ปี (SAA) ซึ่งเป็นการปรับกรอบการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะผลกระทบจาก โควิด-19 ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจมีความเปลี่ยนแปลงไป จึงมีความจำเป็นต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ให้มากที่สุด โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปของกรอบด้งกล่าวภายในเดือนมิถุนายนต่อไป
ทั้งนี้กรอบดังกล่าว จะเน้นเรื่องผลตอบแทนเพียงอย่างเดียวเหมือนที่ผ่านมา แต่จะวัดผลความสำเร็จจากการลงทุนด้านสังคมควบคู่ไปกับผลตอบแทนต่อสมาชิกด้วย โดยเน้นลงทุนในธุรกิจที่ส่งผลดีต่อสังคมด้วย
"ที่ผ่านมา เราจะวิเคราะห์เพื่อทำกรอบการลงทุนระยะยาวแบบนี้ทุกๆ 5 ปี แต่ปีนี้มีปัญหาหนัก สถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปด้วย จึงต้องเอามาทบทวนและวางกรอบการลงทุนกันใหม่หมด เพื่อให้เราสามารถสร้างผลตอบแทนได้อยู่"นางสาวศรีกัญญา กล่าว
เลขาธิการกบข.กล่าวว่า ช่วงที่เกิดโควิด-19 กบข.ได้ปรับพอร์ตการลงทุนในหุ้นให้ลดลงเหลือ 10% ของพอร์ตลงทุนทั้งหมด และลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 70% และปัจจุบันสถานการณ์ต่างๆ เริ่มกลับมาดีขึ้น เห็นได้จากกระแสการเกิดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทำให้กบข.ปรับเพิ่มการลงทุนในหุ้นมาอยู่ที่ 15.6% และปรับลดลงทุนในตราสารหนี้เหลือ 65% ซึ่งหลังจากนี้ไป การลงทุนต่างๆ จะต้องอยู่ในกรอบการลงทุนระยะยาวที่ได้ทำการวิเคราะห์ไว้ด้วย เพื่อให้การลงทุนมีประสิทธิภาพสูงสุด
สำหรับผลตอบแทนจากการลงทุนของกบข.ในปี 2563 นั้น ยังคงเป็นบวกได้ แม้จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ก็ตาม เพราะกบข.ได้วางแผนปรับพอร์ตการลงทุนด้วยความรวดเร็ว และเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้น เช่น ทองคำ และทองแดง รวมไปถึงยังเลือกลงทุนในหุ้นที่มีความเหมาะสม โดยอาศัยจังหวะที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลง เลือกเข้าไปลงทุนในหุ้นที่ต่ำกว่าราคา และไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือเกี่ยวกับการอุปโภคบริโภคอยู่
ส่วนปีหน้ายังเชื่อว่า กบข.จะยังสามารถสร้างผลตอบแทนเป็นบวกได้ต่อเนื่องจากปีนี้ได้อยู่ และยังคงให้ความสำคัญในการลงทุนในหุ้นอยู่ แต่จะเน้นไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ตลาดจีน และอาเซียน ที่มองว่ายังคงให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่ แต่กบข.จะตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลเรื่องการบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนด้วย เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศให้มากที่สุด
"เราได้รับอนุมัติขยายกรอบการลงทุนในต่างประเทศได้ถึง 40% ซึ่งปัจจุบันเราลงทุนอยู่ที่ 33% ฉะนั้นปีหน้า เราจะขยายขึ้นไปให้ใกล้เคียงกรอบที่ได้รับอนุมัติ ซึ่งเราให้ความสนใจในตลาดในประเทศฝั่งตะวันออกมากกว่าตลาดในประเทศตะวันตก"นางสาวศรีกัญญา กล่าว
ทั้งนี้ในปัจจุบัน กบข.มีพอร์ตการลงทุนรวมอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นพอร์ตลงทุนของสมาชิก 4 แสนล้านบาท และพอร์ตลงทุนของกองทุนสำรองฯ อีก 6 แสนล้านบาท โดยมีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 1.1 ล้านคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข้าราชการเกษียณอย่างมีชัย เพียงใส่ใจพอร์ต กบข.
เปิดวิสัยทัศน์ เลขากบข. คนใหม่ “กองทุนบำนาญไทย เท่ามาตรฐานโลก”
เร่งอัดฉีดฟื้นเศรษฐกิจ รัฐควักอีก 3 หมื่นล้าน จัดของขวัญชุดใหญ่