ทิสโก้โฟกัส 3กลุ่มหลักพร้อมคุมคุณภาพสินเชื่อกดเอ็นพีแอล 3.5%พร้อมจ่ายปันผลตามนโยบายของธปท.-เผยยังไม่นิ่งนอนใจ เหตุการระบาดของโควิดรอบ 2ยังฝากความหวังกับวัคซีนสถานการณ์ข้างหน้ายังไม่แน่นอน-เน้นทำธุรกิจระมัดระวัง
นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่าปีนี้เศรษฐกิจมีแนวโน้มจะดีกว่าปีก่อนแต่ยังไม่นิ่งนอนใจ เพราะสถานการณ์ระบาดของโควิดในรอบ 1เดือนที่ผ่านมายังสะท้อนผลกระทบต่อเศรษฐกิจในแง่ลบ ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมอาจจะไม่เติบโตเท่าที่ควรและเชื่อว่าเศรษฐกิจได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ขณะที่สภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่ค่อยดี ส่วนใหญ่ยังรอผลการกระจายวัคซีนต้านโควิด
ในส่วนของธนาคารเน้นการบริหารจัดการคุณภาพสินเชื่อ และยังสามารถเป็นที่ปรึกษาการลงทุน และประกัน โดยปีนี้ตลาดการลงทุนมีทิศทางพัฒนาการที่ดี โดยเฉพาะตลาดทุน โดยทางกลุ่มทิสโก้เปิดขายกองทุนที่หลากหลายให้กับลูกค้าอยู่แล้วและพัฒนาธุรกิจNew Normal พร้อมเทคโนโลยีและให้ความสำคัญความปลอดภัยด้านไอที โดยการบริหารจัดการคุณภาพสินเชื่อนั้น ธนาคารยังต้องระมัดระวังทั้งพยายามเสริมความแข็งแกร่งกับธุรกิจและกันสำรองอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังเผื่อใจไว้สำหรับการเพิ่มขึ้นของหนี้เอ็นพีแอลอาจจะขยับสูงขึ้นในระดับ 3.5%ซึ่งไม่เป็นภาวะกับธนาคาร เนื่องจากที่ผ่านมาธนาคารได้กันสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญอยู่ในระดับสูงกว่า 210.5% จึงไม่น่าห่วง
ต่อข้อถามถึงนโยบายด้านธนบดีหรือบริหารความมั่งคั่งนั้น ยังมีโอกาสเติบโตเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเฉพาะสินทรัพย์ภายใต้การบริหารของบลจ.ทิสโก้กว่า 3แสนล้านบาท และเงินฝากของธนาคารอีกกว่า 2แสนล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งเป็นลูกคากลุ่มเวลธ์อยู่แล้วและกลุ่มทิสโก้เปิดขายกองทุนหลากหลายเป็นทางเลือกกับลูกค้า
“ ปัจจัยบวกทั้งอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ บวกสภาพคล่องในระบบที่ล้นเหลือและดีมานด์จากตลาดทุนมีแนวโน้มที่จะไปได้ดีแม้จะมีการแข่งขันสูง แต่ยังมีรูมในการทำตลาดและเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของเราต่อไป โดยในรอบปีที่ผ่านมาธุรกิจจัดการกองทุนก็มีการเติบโตได้ดี โดยยังไม่รวมธุรกิจประกันภัย”
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า ปีนี้ทิสโก้เน้นการทำธุรกิจใน 3 กลุ่มประกอบด้วย กลุ่มสินเชื่อ เน้น 2 กลุ่มใหญ่ที่ธนาคารมีความเชี่ยวชาญ คือ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ สินเชื่อราย่อย กลุ่มพลังงานและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งพร้อมจะดูแลสภาพคล่องสำหรับลูกค้ารายใหญ่ที่ไม่สามารถระดมทุน ขณะเดียวกันธนาคารยังเน้นพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อรองรับตลาดสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อรถจักรยานยนต์ กรณีลูกค้าต้องการเปลี่ยนมือหรือผ่อนชำระไม่ไหว โดยทิสโก้จะเปิดให้ลูกค้านำรถมาขายบนแพลตฟอร์มและธนาคารสนับสนุนสินเชื่อให้ลูกค้า ซึ่งจะช่วยลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) รวมถึงการอำนวยความสะดวกเป็นอีมาร์เก็ตเพลสและสร้างอีโคซิสเต็มส์ให้ลูกค้าทำประกันหรือสินเชื่อบ้าน ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจประกันภัยจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ทิสโก้เริ่มศึกษาตลาด และกลุ่มธุรกิจธนบดี ซึ่งที่ผ่านมาสามารถเติบโตได้ดีจากการเปิดขายกองทุนที่หลากหลายโดยคัดสรรกองทุนตามเทรนด์ เช่น กองทุนจีโนมิกส์(ARK Genomic Revolution ETF)ซึ่งวิเคราะห์นวัตกรรมทางการแพทย์ หรือกลุ่มเฮลธ์ กลุ่มประกันที่เติบโตได้ดีเพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้า
ต่อข้อถามถึงนโยบายการจ่ายเงินปันผลนั้น นายชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายควบคุมการเงิน และบริหารความเสี่ยง กลุ่มทิสโก้ กล่าวว่า ธนาคารยังจ่ายปันผลตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กำหนดให้จ่ายปันผลได้ไม่เกิน 50% ของกำไรปีก่อน แต่บริษัทลูกในเครือของ ธนาคารทิสโก้หลายแห่ง ( บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และธุรกิจลีสซิ่ง สามารถจ่ายเงินปันผลได้มากว่า 50% ซึ่งจ่ายได้มากกว่าธนาคาร เพราะส่วนใหญ่มีรายได้หลักจากค่าธรรมเนียม และไม่ต้องสำรองเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) โดยยืนยันธนาคารมีเงินกองทุนเหลือเฟือไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนแต่อย่างใด ทั้งนี้ ธนาคารทิสโก้มีความเพียงพอของเงินกองทุน เห็นได้จากอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 22.8%และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่1อยู่ที่ 18.1%และกลุ่มธุรกิจทางการเงินทิสโก้มีอัตราBISอยู่ที่ 22.0% เงินกองทุนชั้นที่1 อยู่ที่ 17.6%ณ วันที่ 31ธันวาคม 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-กลุ่มทิสโก้ย้ำทุนแกร่ง-เดินหน้าแผนงานปี 2564 เน้นเติบโตอย่างยั่งยืน
-เปิดขั้นตอนวิธีลงทะเบียนสินเชื่อธนาคารกรุงไทย เยียวยาโควิดรอบ2 สรุปจบที่นี่
-Live นายกฯ นำแถลงมติครม.เห็นชอบ “เราชนะ เยียวยา3500 บาท - คนละครึ่ง” รอบเก็บตก
-บล.ทิสโก้ชี้ จังหวะช้อนซื้อ หลังหุ้นย่อตัวรับข่าว COVID รอบใหม่
-