ทำไม"บิทคอยน์"จึงแตะ 2 ล้านบาท?

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 12 เมษายน 2021 ราคาบิทคอยน์ บนกระดานเทรดคริปโทเคอร์เรนซี Bitkub ได้ทำระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ 2 ล้านบาท!

หากมองย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2021 ราคาบิทคอยน์ เพิ่งทำระดับสูงสุดที่ 1 ล้านบาทไปเมื่อประมาณวันที่ 1 มกราคม 2021 หมายความว่าราคา บิทคอยน์ ได้ปรับขึ้นเป็นเท่าตัวภายในระยะเวลาเพียงไม่ถึง 4 เดือน

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ราคา บิทคอยน์ ปรับขึ้นได้ถึงขนาดนี้ เราจะมาวิเคราะห์ไปด้วยกันในบทความนี้!

บิทคอยน์ ได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงินระดับโลก

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคา บิทคอยน์ คงทิศทางขาขึ้นมาตั้งแต่ปี 2020 คือการที่บรรดาสถาบันการเงินระดับโลกเริ่มหันมาสนใจ บิทคอยน์ ยกตัวอย่างเช่น Goldman Sachs ที่เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา 

มีรายงานว่าพวกเขากำลังพิจารณาเปิดกองทุนให้ลูกค้าบางกลุ่มสามารถเข้าถึงการลงทุนใน บิทคอยน์ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
แต่ก่อนหน้า Goldman Sachs ก็มี Morgan Stanley หนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯเช่นกัน มีรายงานว่าจะเปิดกองทุนให้ลูกค้าสามารถลงทุนใน บิทคอยน์ ได้ถึง 3 กองทุนด้วยกัน ทำให้ Morgan Stanley กลายเป็นหนึ่งในธนาคารใหญ่รายแรกที่สนับสนุน
บิทคอยน์

โดยทางเจ้าหน้าที่ของ Morgan Stanley ระบุว่าการตัดสินใจครั้งนี้ เป็นเพราะลูกค้าของธนาคารมีการเรียกร้องเข้ามาอย่างล้นหลาม

บิทคอยน์ถูกใช้งานจริงเป็นวงกว้าง

เมื่อไม่นานมานี้ นาย Elon Musk ผู้ก่อตั้ง ของ Tesla, SpaceX, Neuralink และบริษัทเทคโนโลยีแนวหน้า ได้ออกมาประกาศว่า ลูกค้าของ Tesla สามารถใช้ บิทคอยน์ ในการซื้อรถยนตร์ไฟฟ้าของบริษัทฯได้แล้ว

นาย Elon Musk นับเป็นหนึ่งในบุคคลที่โซเชียลมีเดียให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในวงการเทคโนโลยี เนื่องจากเขามักจะมีความคิดที่นำสมัยอยู่เสมอ ทำให้เวลาเขาออกมากล่าวอะไรบนโซเชียล ก็มักจะมีคนสนับสนุนหรือทำตามที่เขากล่าว ซึ่งบัญชี Twitter
ของเขาก็มีผู้ติดตามมากกว่า 50 ล้านคนเข้าไปแล้ว

นอกจากนี้ ถึงแม้การใช้งานคริปโทเคอร์เรนซีจะยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนักในประเทศไทย แต่ในสหรัฐอเมริกาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยี พวกเขามีการติดตั้งตู้ Bitcoin ATM ที่ใช้สำหรับการแลกบิทคอยน์เป็นเงินสด หรือใช้ซื้อขายบิทคอยน์ ผ่านตู้กันได้อย่างสะดวกสบาย

มีรายงานว่า สหรัฐฯได้ติดตั้งตู้ Bitcoin ATM ดังกล่าวไปแล้วกว่า 16,835 ตู้ทั่วประเทศ ในปี 2021 ซึ่งเป็นตัวเลขที่เติบโตขึ้นมาจากปี 2020 เกือบ 177% จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 7,152 ตู้ นับเป็นอีกหนึ่งการขยายตัวที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง

บิทคอยน์ กับ โควิด-19

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการระบาดของ COVID-19 ได้สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่พุ่งสูงถึงหลัก 136 ล้าน และยอดผู้เสียชีวิตอีกเกือบ 3 ล้านราย อ้างอิงจาก Worldometer

แม้ว่าปัจจุบันจะเริ่มมีการฉีดวัคซีนกันในบางประเทศแล้วก็ตาม แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงซบเซาเช่นนี้ รัฐบาลของหลาย ๆ ประเทศจึงตัดสินใจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่ใช้มาตรการ Unlimited QE หรือมาตรการพิมพ์เงินอย่างไม่จำกัด เพื่ออัดฉีดและกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัว

แต่ผลกระทบที่จะตามมาจากการใช้มาตรการพิมพ์เงินอย่างไร้ขีดจำกัดนี้ คือเรื่องของภาวะเงินเฟ้อ (Hyperinflation) ที่จะทำให้มูลค่าของเงินอ่อนค่า เพราะมีเงินระบบมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง เหล่านักลงทุน หรือแม้แต่ประชาชนทั่วไป จึงเริ่มหันมาซื้อสินทรัพย์ที่สามารถรักษามูลค่าเอาไว้ (Store of value) เพื่อเก็บเป็นทรัพย์สินสำรอง หนึ่งในสินทรัพย์ที่เป็นที่นิยมก็คือ ทองคำ และ บิทคอยน์

ด้วยการที่ บิทคอยน์ สร้างขึ้นบนเทคโนโลยี Blockchain ที่ขึ้นเชื่อเรื่องความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้และปลอดภัย อีกทั้ง บิทคอยน์ ยังถูกสร้างมาให้มีจำนวนจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ บิทคอยน์ จึงถูกเปรียบเป็นทองคำดิจิทัล (Digital Gold) และด้วยการที่มีผู้คนยอมรับมันมากขึ้น ทำให้มูลค่าของมันค่อย ๆ สูงขึ้นตามปริมาณอุปสงค์นั่นเอง

อ้างอิง Cointelegraph CNN CNBC Worldometer