มติคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 5 พ.ค. 64 เห็นชอบโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ซึ่งเป็นโครงการใหม่ล่าสุด หนึ่งในมาตรการเยียวยาโควิดรอบใหม่ โดยรัฐบาลสนับสนุน e - Voucher ให้ประชาชนสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน
โดยวาระโครงการ “ยิ่งใช้ ยิ่งได้” นี้ เป็นหนึ่งในมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจ จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระลอกเดือนเมษายน 2564 ซึ่งคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
โดยเอกสารมติครม.ระบุรายละเอียดดังนี้
โครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” โดยรัฐสนับสนุน e - Voucher ให้กับประชาชนที่ใช้จ่าย ดังนี้
โดยเป็นการใช้จ่ายกับร้านหรือผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม(Vat) ไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน
โดยเมื่อประชาชนใช้จ่ายดังกล่าวจะได้รับสนับสนุน e - Voucher จากภาครัฐในช่วงเดือนกรกฎาคมถึง ธันวาคม 2564 และสามารถนำ e - Voucher ไปใช้จ่ายได้ในเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม 2564 ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการฯ ประมาณ 4 ล้านคน
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงรายละเอียดมาตรการเยียวยาโควิด -19 รอบใหม่ ถึงโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” โดยระบุว่า
ภาครัฐจะสนับสนุนบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Voucher) ให้แก่ผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการ เมื่อชำระเงินผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” กับผู้ประกอบการร้านค้าและบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ซึ่งโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศผ่านผู้มีกำลังซื้อสูงให้นำเงินออกมาใช้จ่ายและสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
ทั้งนี้รัฐจะสนับสนุน e-Voucher ให้กับประชาชน ที่ใช้จ่ายซื้อสินค้า และค่าอาหารเครื่องดื่มและค่าบริการกับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน โดยประชาชนใช้จ่ายจะได้รับการสนับสนุน e-Voucher จากภาครัฐในช่วง ก.ค. - ก.ย.2564 ไปใช้จ่ายในเดือน ส.ค. -ธ.ค.2564 โดยประเมินว่าจะมีประชาชนจะเข้าโครงการประมาณ 4 ล้านคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :