"ไนน์ เบซิล" ผนึกกำลังผลักดัน "แอรีส เอสเอสจี" เดินหน้า IPO ปี 2565
ไนน์ เบซิ กองทุนไพรเวทอิควิตี้ เพื่อการลงทุนในตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศความร่วมมือกับ แอรีส เอสเอสจี สองยักษ์ใหญ่แห่งบริษัทจัดการลงทุน เสริมความแกร่ง หวังก้าวขึ้นครองตำแหน่งบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือ AMC แบบอิสระ และบริษัทบริหารหนี้ด้อยคุณภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
การผนึกกำลังกันครั้งนี้ จะเป็นการรวมเอาทีมบริหารที่ถือว่าเป็นทีมชั้นนำในธุรกิจนี้ กับทีมนักลงทุน ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหลายบริษัทที่เป็นผู้นำของแต่ละกลุ่มธุรกิจเข้าด้วยกัน โดยตั้งเป้านำ แอรีส เอสเอสจี เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ภายใน 1 ปี
นายชวิณ เจียรวนนท์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริหารกลุ่มบลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ และกองทุนไนน์ เบซิล กล่าวว่า เริ่มทีเดียว ทางไนน์ เบซิลนั้นอยากจะจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ของตัวเองขึ้น เนื่องจากเราเห็นโอกาส ในตลาดนักสร้างอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดปัญหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการซื้อเพื่อเก็งกำไร ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากมาตรการการปล่อยสินเชื่อที่ไม่เคร่งครัดจากฝั่งธนาคารในประเทศไทย ซึ่งโอกาสในการลงทุนมีอยู่มากกว่า 1,000 ล้านบาท ในตลาดนี้ และเมื่อมองดูว่าใครที่เป็นผู้นำของตลาด พบว่า ‘อัลฟาแคปปิตอล’ คือผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในแง่ทางการเงินของกลุ่มธุรกิจ การบริหารสินทรัพย์
ในปี 2562 ทางไนน์ เบซิล และแอรีส เอสเอสจี บริษัทจัดการลงทุนทางเลือกด้านสินเชื่อและสินทรัพย์ในสถานการณ์พิเศษ ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายใต้กลุ่มบริษัท แอรีส เมเนจเม้นท์ ซี่งเป็นบริษัทจัดการลงทุนทางเลือกชั้นนำระดับโลก ได้เห็นโอกาสเหมาะ จึงได้จับมือร่วมกันลงทุนผ่านอัลฟาแคปปิตอล ซี่งเป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการบริหารสินทรัพย์ เพื่อซื้อ จัดการและบริหารและจัดเก็บหนี้ด้อยคุณภาพ
ทีมผู้บริหารของอัลฟาแคปปิตอลมีประสบการณ์ทำงานกับบริษัทมาโดยเฉลี่ยกว่า 19 ปี และได้พาบริษัทผ่านวิกฤตทางการเงินของเอเชียมาแล้ว จนทำให้ระบบบริหารจัดการภายในของบริษัทนั้น แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีก
ดร. กฤษณ์ พานิชพันธ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริหาร กองทุนไนน์ เบซิล กล่าวว่า ธุรกิจที่กองทุนไนน์ เบซิล มองหาและเลือกลงทุน จะเป็นธุรกิจที่กำลังมีปัญหาหรือธุรกิจที่เจ้าของกำลังมีปัญหา เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นธุรกิจที่มีสัดส่วนความปลอดภัยในการลงทุนรับได้ และเป็นธุรกิจที่มีความรู้ความชำนาญ จึงจะเข้าลงทุน
การเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มผลตอบแทนของการลงทุนในตลาดหนี้ด้อยคุณภาพนั้น สามารถทำเป็นระบบและคำนวณถึงผลตอบรับได้ ทำให้มั่นใจที่จะวางเงินลงทุนเพิ่ม เพื่อให้บริษัทเติบโตมากขึ้น และเมื่อดูขนาดของตลาดหนี้ด้อยคุณภาพในประเทศไทย ตลาดนี้มีโอกาสเติบโตและมีมูลค่าสูงขึ้นได้ถึงหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ไนน์ เบซิล เน้นการลงทุนในตลาดปิด และมีทีมผู้บริหารที่มุ่งมั่นในการนำให้บริษัทที่เข้าไปลงทุนเติบโตยิ่งขึ้น ผ่านการร่วมมือกันของกลุ่มกรรมการบริหาร ผู้ถือหุ้น และเครือข่ายธุรกิจของกลุ่มบลูพริ้นต์ ฟอเรสต์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง