นิสสันส่ง‘คิกส์ อี-พาวเวอร์’สู้เอสยูวีราคาต่ำ1ล้าน
พีพีวี “เทอร์ร่า” ขายน้อย ส่วนอีวี “ลีฟ” ยังไม่ปัง นิสสันภายใต้ยุคประธานใหม่ “ราเมช นาราสิมัน” พร้อมทีมงานเริ่มทบทวนแผนงานและปรับกลยุทธ์กันใหม่ ทั้งในแง่โปรดักต์ การวางตำแหน่งทางการตลาด และการขาย
ยอดขาย 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค. 62) นิสสันทำได้ 44,601 คัน ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ปิกอัพ นาวารา ที่อัดเงินเล่นแคมเปญสู้ยิบตา ช่วยพลักดันยอดขายถึง 16,802 คัน โต 13.1% ส่วนกลุ่มรถยนต์นั่งรวม 25,183 คัน ลดลง 11.5%
เมื่อลงลึกไปที่โปรดักต์รายตัวในกลุ่มเอสยูวีและเอสยูวีที่พัฒนาบนพื้นฐานปิกอัพ(พีพีวี) อย่าง “เอ็กซ์-เทรล” และ “เทอร์ร่า” ถือว่ายอดขายไม่สู้ดีนัก โดยรุ่นแรกขายได้รวม 982 คัน ลดลง 14.6% เมื่อเทียบกับ 8 เดือนเดียวกันของปี 2561 ส่วนรุ่นหลังทำได้ 1,120 คัน หรือเฉลี่ยเดือนละกว่า 100 คัน (อันดับ 1 โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 18,670 คัน ตามด้วย มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต 9,054 คัน)
ขณะที่เทอร์ร่า ไม่ได้ปรับราคาขึ้นตามที่ประกาศในช่วงเปิดตัวไตรมาส 3 ปีที่แล้ว ว่าต้นปี 2562 จะขยับราคาขึ้นทุกรุ่นย่อย 50,000 บาท แต่จนแล้วจนรอดถึงวันนี้รุ่นเริ่มต้น 2.3 V 2WD ยังราคาเดิม 1.316 ล้านบาท เช่นเดียวกับรุ่น 2.3 VL 2WD 1.349 ล้านบาท มีเพียงตัวท็อป VL ขับเคลื่อน 4 ล้อขึ้นราคา 2 หมื่นบาท เป็น 1.457 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญผลักดันยอดขายในรุ่นเริ่มต้น 2.3 V 2WD เหลือเพียง 1.199 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือเป็นแคมเปญอย่างเป็นทางการจากบริษัทแม่ แต่ถ้าสอบถามไปยังดีลเลอร์ พบว่าเทอร์ร่าแต่ละรุ่นย่อยมีส่วนลดประมาณ 1 แสนบาทอยู่แล้ว
เมื่อดูสถานการณ์ในกลุ่มเอสยูวีของนิสสันถือว่าเหนื่อย ดังนั้นรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาแทรกในระดับ บี-เอสยูวีอย่าง “คิกส์” (Kicks) จึงต้องวางแผนงานอย่างรอบคอบ
ถ้าตามแผนเดิม “คิกส์” จะมีทางเลือกเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร แต่ล่าสุดเหมือนนิสสันจะผุดไอเดียใหม่ จับขุมพลังไฮบริด “อี-พาวเวอร์” มาประจำการในเอสยูวีรุ่นนี้ หวังท้าชน “ฮอนด้า เอชอาร์-วี” และโตโยต้า ซี-เอชอาร์
เดิมขุมพลัง “อี-พาวเวอร์” ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.2 ลิตร ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า คาดว่าจะมากับ “โน๊ต” พร้อมประกอบที่โรงงานนิสสันในไทย ตามแพ็กเกจส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ
ทว่าการทำตลาด “โน๊ต อี-พาวเวอร์” ที่พลาดหวังกับภาษีอัตราพิเศษ เพราะนิสสันมองว่านี่คือรถพลังงานไฟฟ้า(ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์) แต่ในความเป็นจริงๆ ตัวรถยังปล่อยมลพิษอยู่ ซึ่งหลักการทำงานเหมือนรถไฮบริดแบบซีรีส์ ดังนั้นพิกัดภาษีสรรพสามิตจึงต้องอยู่ในระดับเดียวกับรถไฮบริดปล่อยไอเสียตํ่ากว่า 100 กรัม/กม. คือ 8% แต่หากประกอบชิ้นส่วนสำคัญเช่นแบตเตอรี่ในไทยที่ได้รับการรับรองจากบีโอไอ จะได้ลดภาษีลงมาเหลือ 4% เช่นเดียวกับโตโยต้า ซี-เอชอาร์
นั่งดีดลูกคิด คำนวณตัวเลขแล้ว “โน๊ต อี-พาวเวอร์” จะเข้ามาขายตรงไหนในราคาเท่าไหร่ เพราะราคารุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ปัจจุบันก็สูงกว่าอีโคคาร์รุ่นอื่นๆของค่ายอยู่แล้ว คือ 5.68-6.4 แสนบาท ขณะเดียวกันด้วยความเป็นเทคโนโลยีใหม่ ถ้าลงมาจับลูกค้าในกลุ่มอีโคคาร์ หรือ ซับคอมแพ็กต์คาร์ จะได้การตอบรับจริงหรือ
เหนืออื่นใดรถประเภทเอสยูวี(ครอสโอเวอร์) กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีให้เลือกหลายระดับ เช่นบี-เอสยูวี กลุ่มเริ่มต้นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ราคา 7-8 แสนบาท(เอ็มจี แซดเอส, ฮอนด้า บีอาร์-วี) และบี-เอสยูวีกลุ่มบน 8 แสน - 1.1 ล้านบาท (ฮอนด้า เอชอาร์-วี โตโยต้า ซี-เอชอาร์ และมาสด้า ซีเอ็กซ์-3) ถือเป็นทิศทางที่น่าสนใจ
เมื่อนิสสันมีแผนประกอบ “คิกส์” ในเมืองไทยอยู่แล้ว และหากต้องการให้รถแข่งขันได้ ทั้งในแง่เทคโนโลยี สมรรถนะ อัตราบริโภคนํ้ามัน พร้อมตั้งราคาขายได้สะดวกสบายหรือมีพื้นที่ให้เล่นมากกว่า “โน๊ต” ดังนั้นขุมพลังอี-พาวเวอร์ จึงถูกนำมาประจำการใต้ฝากระโปรง “คิกส์” พร้อมทำตลาดในเมืองไทยปี 2563
ทั้งนี้ “นิสสัน คิกส์” เริ่มทำตลาดในหลายประ เทศทั่วโลก เช่น อเมริกาใต้ที่มีฐานผลิตในบราซิล และฐานผลิตที่อินเดียวางเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ประกบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และดีเซล 1.5 ลิตร ประกบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ส่วนจีนวางเบนซิน 1.5 ลิตรประกบเกียร์ CVT(จะเห็นว่าทางเลือกของขุมพลังต่างกันไปในแต่ละประเทศ)
อย่างไรก็ตามก่อนจะถึงการทำตลาดเอสยูวี “คิกส์”นิสสัน เริ่ม“คิกออฟ” แคมเปญสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้อีโคคาร์ซีดานรุ่นใหม่ (อัลเมร่า) แล้ว โดยออกมาเปิดเผยทิศทางการออกแบบพอเป็นนํ้าจิ้ม ซึ่งดูเส้นสายจากภาพที่โปรโมตมันก็คือ “เวอร์ซ่า” ที่ตลาดในอเมริกานั่นเอง
นายอัลฟอนโซ อัลบายซา รองประธานอาวุโส ส่วนงานออกแบบทั่วโลก นิสสัน มอเตอร์ เปิดเผยว่า แนวคิดการออกแบบซิตี คาร์รุ่นนี้ เต็มไปด้วยพลังมีเสน่ห์ ทันสมัย และเร้าใจ มิติภายนอกปราดเปรียวขึ้น กว้างและยาวขึ้นภายใต้ปรัชญาในการสร้างสรรค์รถยนต์แบบ “รูปทรงเรขาคณิตที่สื่อถึงอารมณ์ หรือ Emotional Geometry” มีองค์ประกอบที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ เช่น กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้าและไฟท้ายแบบบูมเมอแรง เสาหลังคาท้ายที่ตั้งชัน (kick-up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (floating roof) ส่งต่ออัตลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความต่อเนื่องในรถยนต์นิสสันทุกรุ่น
นายราเมช นาราสิมัน ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทยกล่าวว่า นิสสัน ซิตี คาร์ ใหม่ในรุ่นต่อไปได้รวมเอาการออกแบบที่โดดเด่น แต่ต้องรักษาความสะดวกสบาย กว้างขวางซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้านิสสันพร้อมติดตั้งเทคโนโลยีอัจฉริยะและให้สมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนาน ประหยัดนํ้ามัน มีความปลอดภัยสูง เพื่อตอบสนองได้ทุกความต้องการใช้งานของกลุ่มมิลเลนเนียลตลอดจนกลุ่มที่เริ่มสร้างครอบครัว
“นิสสันมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการ ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและมอบเทคโนโลยีเพื่อช่วยการขับขี่ และการเดินทางที่ปลอดภัยใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง นิสสันจึงยืนหยัดในฐานะผู้บุกเบิกและรักษาความเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มรถยนต์ ซิตี คาร์” นาราสิมัน กล่าว
สำหรับซิตีคาร์ รุ่นดังกล่าวคาดว่าจะเป็น “อัลเมร่า” ซีดานขนาดเล็กที่ต้องทำให้เข้าเงื่อนไขอีโคคาร์เฟส 2 ด้วยการวางเครื่องยนต์เบนซินใหม่ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ กำหนดเปิดตัวในเมืองไทยปลายปีนี้
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,512 วันที่ 10 - 12 ตุลาคม พ.ศ. 2562