มอ’ไซค์อีวีรุ่ง จีน-ไทยแห่ร่วมวง

24 ม.ค. 2563 | 23:45 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ม.ค. 2563 | 06:55 น.

 

ข้อมูลเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า100% (BEV) ที่สะสมในประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2558 - 2562 พบว่า มีจำนวน 2,854 คัน และเมื่อดูเฉพาะตัวเลขยอดจดทะเบียนใหม่ของปี 2562 พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 1,572 คัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มียอด 325 คัน โดยประเภทรถที่มีสัดส่วนสูงสุดคือ รถมอเตอร์ไซค์ 791 คัน ตามมาด้วยรถยนต์ 691 คัน รถโดยสาร 33 คัน และรถสามล้อ 57 คัน

 

เทรนด์ของยานยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ ส่งผลให้ผู้ผลิตหลายรายต่างเห็นโอกาส ประกอบกับปัจจัยเรื่องฝุ่นควันพิษ PM 2.5 รวมไปถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนที่ตระหนักเรื่องดังกล่าวเริ่มมองหารถพลังงานไฟฟ้า

ข่าวเด่นฐานเศรษฐกิจ

ไทยสูญรายได้ Q1 ร่วม 5 หมื่นล. หลัง"สี จิ้นผิง" ห้ามทัวร์จีนเที่ยวทั่วโลก

ผวาฝุ่นพิษ-ไวรัสโคโรนา ทุบซ้ำ“ทัวร์ตรุษจีน”

เทศมองไทย2020 ท่องเที่ยวปรับอย่างไรให้อยู่รอด

ล่าสุดแบรนด์ AJ ที่หลายคนคุ้นชินกับสโลแกน พระเอกตัวจริง ก็กระโดดร่วมวงในตลาดรถไฟฟ้า โดยผนึกกำลังกับ YADEA ที่เป็นผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า EV BIKE จากจีน และนำรถเข้ามาทำตลาด 4 รุ่น ได้แก่ Q5, C-Like, Z3, C-Lion 

มอ’ไซค์อีวีรุ่ง จีน-ไทยแห่ร่วมวง

 

AJ สื่อสารตลาดด้วยการนำสโลแกนเดิมอย่างพระเอกตัวจริง มาใช้ในการโฆษณา และชูเทคโนโลยีโครงเหล็กกล้าผลิตด้วยโรบอต อย่างไรก็ดีแบตเตอรี่ที่เลือกใช้นั้นเป็นแบบตะกั่วกรด Graphene battery ที่สามารถชาร์จได้มากกว่า 1,000 ครั้ง และเต็มไวภายใน 2 ชั่วโมง

 

พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวรถให้ลูกค้าได้สัมผัสในงานอีเวนต์ “แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2020” และในงานเดียวกันได้เปิดให้ผู้สนใจรับสมัครเป็นดีลเลอร์ เพราะปัจจุบันยังไม่มีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่จะเปิดขายและให้ลูกค้าได้ทดลองรถที่สำนักงาน เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี บนถนนพระราม 2

 

ขณะที่น้องใหม่อีกราย “Swag” แม้จะประกาศตัวว่าเป็นแบรนด์จากสิงคโปร์ แต่ตัวรถนั้นนำเข้าทั้งคันจากโรงงานในจีน โดย “Swag” เพิ่งจัดงานเปิดตัวรถ 3 รุ่น ได้แก่ Type S, Type X และในเดือนเมษายนจะเปิดขายอีก 1 รุ่นคือ Type V ส่วนโชว์รูมหน้าร้านนั้นเพิ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆ นี้ และตั้งอยู่ใจกลางเมืองอย่างสยามสแควร์ วัน

 

Swag ชูจุดขายมอเตอร์ที่มีชื่อเรียกว่า Brushless hub-motors ที่ได้จับมือกับ BOSCH เยอรมนี ส่วนแบตเตอรี่เลือกใช้แบบลิเทียมไอออนของแบรนด์ที่คนไทยรู้จักอย่างซัมซุง

 

“เราเริ่มต้นทำตลาดในรูปแบบ B2B ก่อน และเรายังมองไปที่กลุ่ม แกร็บ และเก็ท ที่จะนำรถไปใช้ในธุรกิจ เบื้องต้นเราเตรียมรถไว้ประมาณ 200 คันสำหรับกลุ่ม B2B ส่วนการขายแบบ B2C นั้น จะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ และเราตั้งเป้าหมายการขายในปีนี้ 1 หมื่นคัน แบ่งเป็นในประเทศ 50% และประเทศอื่นๆในเอเชียน 50%” นางสาวบุณยาพร วัดสว่าง กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ Swag EV กล่าว

 

เป้าหมายของ “Swag” ภายใน 2 ปีนี้จะตั้งโรงงานในประเทศไทย เนื่องจากมีความพร้อมด้านต่างๆ และยังมีความได้เปรียบเมื่อเทียบกับประเทศ อื่นๆ โดยไทยจะเป็นเฮดควอเตอร์ ขณะที่โชว์รูมและศูนย์บริการแห่งแรกนั้นคาดว่าจะตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท และเปิดบริการภายในสิ้นปีนี้ ส่วนการขยายเครือข่ายดีลเลอร์นั้น จะกระจายไปตามหัวเมืองใหญ่ อาทิ เชียงใหม่ และภูเก็ต

 

ถือเป็น 2 แบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งแจ้งเกิด และยังเขย่าตลาดด้วยราคาเริ่มต้นที่ตํ่ากว่าคู่แข่งอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ที่ทำตลาดมาก่อนอย่าง NIU ที่เพิ่งเปิดตัวรุ่น NGT Sport ที่เคาะราคาทะลุ 1 แสนบาท ซึ่งการแก้เกมของ NIU ได้ปรับราคาของรถรุ่นใหม่ลงมา 5,000 บาท (จาก 1.09 แสนบาท เหลือ 1.04 แสนบาท) และปรับราคาของรุ่น N1S ลงมา 2 หมื่นบาท (จาก 9.8 หมื่นบาท เหลือ 7.8 หมื่นบาท )

 

ด้านแบรนด์ไทยที่เป็นสตาร์ตอัพ ETRAN ปีที่ผ่านมาประกาศความพร้อมในการขาย ETRAN KRAF LIMITED EDITION ที่ผลิตขึ้นมา 300 คัน ราคา 1.5 แสนบาท โดยพร้อมจะส่งมอบภายในไตรมาสแรกของปีนี้

 

จุดขายที่ ETRAN มาพร้อมกับมอเตอร์ 7,000 วัตต์ สามารถชาร์จ 2-4 ชั่วโมง วิ่งได้ 180 กิโลเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอื่นๆ ในตลาด ถือว่ามอเตอร์มีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งส่งผลโดยตรงทำให้ระยะวิ่งของ ETRAN มีระยะการวิ่งที่สูงสุด

 

อีกหนึ่งแบรนด์ไทย “EDISON MOTORS” ปัจจุบันมีรถทำตลาด 3 รุ่นได้แก่ Volta E, Volta S, Naked และล่าสุดเปิดบิ๊กไบค์ไฟฟ้าสัญชาติไทยคันแรกในรุ่น STRIKER

 

จุดแข็งของแบรนด์ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทไฟแนนซ์ อย่างเวิลด์ลีส และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้เป็นเจ้าของรถได้ง่าย

 

เรียกได้ว่าคึกคัก ยกทัพกันมาหลากหลายแบรนด์ แถมรถรุ่นใหม่ๆที่เข้ามาทำตลาดในตอนนี้ สามารถจดทะเบียนได้ มีรับประกันคุณภาพมอเตอร์ไฟฟ้า-แบตเตอรี่รวมไปถึงมีโชว์รูมหน้าร้าน ศูนย์บริการพร้อมทั้งหมดนี้น่าจะทำ ให้ตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าปีนี้รุ่ง และเติบโตอย่างแน่นอน

หน้า28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 3,542 วันที่ 23 - 25 มกราคม พ.ศ. 2563