เซ็กเมนต์ บี-เอสยูวี เติบโตต่อเนื่องด้วยผู้เล่นหลายราย โดย “ฐานยานยนต์” แบ่งเป็น กลุ่มเริ่มต้นและกลุ่มบน โดยกลุ่มแรกราคาประมาณ 7-8 แสนบาท คือ ฮอนด้า บีอาร์-วี, เอ็มจี แซดเอส ส่วนกลุ่มบนราคาประมาณ 9 แสน-1.1 ล้านบาท ไล่ตั้งแต่ ฮอนด้า เอชอาร์-วี, โตโยต้า ซี-เอชอาร์ และมาสด้า ซีเอ็กซ์-30
ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวจาก 3 ค่าย คือ โตโยต้า ที่เดือนกรกฎาคมนี้เตรียมเปิดตัวเอสยูวี รุ่นใหม่ใช้แฟลตฟอร์ม TNGA (Toyota New Global Architecture) เหมือน ซี-เอชอาร์ พร้อมวางขุมพลังเดียวกันคือ 1.8 ลิตร และไฮบริด (เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า) แต่ระยะตํ่าสุดจากพื้นจะสูงขึ้น โครงสร้างตัวถังใหญ่กว่าเล็กน้อย เพิ่มความอเนกประสงค์ ซึ่งถือเป็นตำแหน่งการตลาดที่อยู่ระหว่าง บี-เอสยูวี กลุ่มบน กับ คอมแพ็กต์เอสยูวี โดยอาจจะใช้ชื่อ "โตโยต้า โคโรลล่า ครอส" ( Toyota Corolla Cross )
อีกหนึ่งค่ายญี่ปุ่น “ซูซูกิ” เตรียมนำเข้า Suzuki XL7 มาจากอินโดนีเซีย มาเปิดตัววันที่ 2 กรกฎาคมนี้ โดยรถยนต์รุ่นนี้คือ เออร์ติก้า ที่พัฒนาใหม่ให้มีความเป็นเอสยูวีมากขึ้น ทั้งตัวถังที่ยกสูง และรูปลักษณ์การตกแต่งที่บึกบึน แต่ยังคงความอเนกประสงค์จากเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง (แนวทางเดียวกับ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส) Suzuki XL7 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ประกบเกียร์อัตโนมัติ คาดราคาขายประมาณ 8 แสนบาท
ส่วน “เปอโยต์” ค่ายฝรั่งเศสที่หาญกล้าทำตลาดสู้รถแบรนด์ญี่ปุ่น ภายใต้การดูแลของ เอ็มจีซี-เอเชีย หลังจากประเดิมขาย 3008 กับ 5008 คอมแพ็กต์เอสยูวี 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยรุ่นแรกราคา 1.549 ล้านบาท รุ่นหลัง 1.749 ล้านบาท และปีนี้เตรียมเสริมทัพเอสยูวีน้องเล็ก Peugeot 2008 อีกหนึ่งรุ่น
สำหรับ เปอโยต์ 2008 ( Peugeot 2008 ) ถูกนำมาอวดโฉมที่งาน MGC-ASIA AUTO FEST 2020 ระหว่าง 18-28 มิถุนายน นี้ ที่ห้างสยามพารากอน แต่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะอยู่ในช่วงปลายปี 2563
เปอโยต์ 2008 ถูกเปิดตัวในตลาดโลกครั้งแรกกลางปี 2562 การทำตลาดในไทยจะนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย วางเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.2 ลิตร เทอร์โบ ประกบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ราคารุ่นเริ่มต้นประมาณ 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปี 2562 บี-เอสยูวีทำยอดขายรวมกันเกือบ 5 หมื่นคัน ถือเป็นเซกเมนต์ดาวรุ่งในกลุ่มรถยนต์นั่ง และปีนี้มีความเคลื่อนไหวคึกคัก ตั้งแต่การเปิดตัว เอ็มจี แซดเอส ไมเนอร์เชนจ์, มาสด้า ซีเอ็กซ์-30 และนิสสัน คิกส์
สำหรับ แซดเอส เป็นรถที่สร้างยอดขายให้เอ็มจี เป็นกอบเป็นกำ ทำตลาดไม่ถึง 3 ปี ได้ตัวเลขสะสมไปกว่า 3 หมื่นคัน ส่วนรุ่นใหม่ไมเนอร์เชนจ์ ปรับหน้าให้ดูทันสมัย เพิ่มออพชัน แล้วขยับราคาขึ้น 1 หมื่นบาท แบ่งขาย 3 รุ่นย่อย C+ ราคา 6.89 แสนบาท D+ ราคา 7.39 แสนบาท และ X+ ราคา 7.99 แสนบาท
ส่วน มาสด้า ซีเอ็กซ์-30 เอสยูวีสายพันธุ์ใหม่ใช้พื้นฐานเดียวกับ มาสด้า 3 วางเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และมีตัวถังที่ใหญ่กว่า ซีเอ็กซ์-3 แต่เล็กกว่า ซีเอ็กซ์-5 มาพร้อมราคา 9.89 แสน-1.199 ล้านบาท ขณะที่ ซีเอ็กซ์-3 ยังทำตลาดอยู่แต่เตรียมปรับตำแหน่งสินค้า และรุ่นย่อยใหม่ โดยขยับราคาลงอย่างน้อย 1 แสนบาท
ด้าน “นิสสัน คิกส์” เปิดตัวเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีรถพร้อมส่งมอบเดือนมิถุนายนนี้ โดยเปิดราคาช่วงแนะนำ 8.89 แสนบาท - 1.049 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม รุ่น V กับ VL ราคาขายจริงต้องเพิ่มอีก 5 หมื่นบาท เป็น 1.049 และ 1.1039 ล้านบาท ตามลำดับ แต่ประธานนิสสัน ยืนยันว่ายังไม่มีแผนปรับราคาช่วงนี้
นายราเมช นาราสิมัน ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทพยายามตั้งราคา นิสสัน คิกส์ ให้เหมาะสม ส่วนประเด็นการปรับราคาขายยังเร็วไปที่จะพูดถึงในตอนนี้ เพราะต้องดูปัจจัยอื่นๆหลายอย่าง ทั้งการตอบรับของลูกค้า และสภาพตลาด
“เราไม่สามารถบอกได้ว่าจะปรับขึ้นเมื่อไหร่ แต่ราคานี้ถือว่าคุ้มค่าและเป็นโอกาสดีของผู้บริโภค ส่วนเป้าหมายยอดขายไม่สามารถบอกได้” นายราเมช กล่าว
สำหรับ นิสสัน คิกส์ หลังจากรถทยอยลงโชว์รูม 17-18 มิถุนายนที่ผ่านมา ยังไม่เปิดเผยยอดจอง เพียงแต่รุ่นที่ได้รับความนิยมคือ VL กับสีทูโทนภายนอก-ภายในที่ต้องเพิ่มราคาอีก 2.5 หมื่นบาท ส่วนรุ่นย่อยที่ได้รับความนิยมรองลงมาคือเกรด S
นั่นเป็นความเคลื่อนไหวของกลุ่ม เอสยูวีขนาดเล็ก หรือครอสโอเวอร์ ทั้ง "โตโยต้า โคโรลล่า ครอส" ( Toyota Corolla Cross ) และ Suzuki XL7 ที่จะมาในเดือนกรกฎาคม ส่วนปลายปีนี้ยังมีการเปิดตัวรถใหม่อีกหลายรุ่น
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,585 วันที่ 21 - 24 มิถุนายน พ.ศ. 2563